เราได้สำรวจแนวโน้มของการใช้สถานที่ทำงานแบบไฮบริด ในปี พ.ศ. 2567 ซึ่งเราจะศึกษาถึงปัจจัยที่จำเป็นในการปรับตัวต่อแนวโน้มเหล่านั้นและทำอย่างไรเพื่อให้สถานที่ทำงานยังคงอยู่ต่อไปได้
โซลูชันสถานที่ทำงานแบบไฮบริดไม่เพียงแค่จำเป็น แต่ยังเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้เพราะเป็นการจัดการทางเทคโนโลยีเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยและมีความพร้อมด้านเครื่องมือที่เพื่อให้พนักงานประสบความสำเร็จในด้านการทำงาน
เมื่อเราก้าวเข้าสู่ยุคไฮบริดอย่างต่อเนื่อง ทำให้พนักงานมีการทำงานจากสถานที่ต่างๆ เช่น บ้าน สำนักงาน และพื้นที่ทำงานร่วมกัน เราได้เล็งเห็นความจำเป็นของโซลูชันสถานที่ทำงานร่วมแบบไฮบริดที่สามารถรวมสภาพแวดล้อมเหล่านี้เข้าไว้ด้วยกัน เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุดในปัจจุบัน
ค้นหาและเข้าใจความต้องการของคุณ
การพัฒนาสถานที่ทำงานร่วมแบบไฮบริดที่เหมาะสมเริ่มต้นด้วยการเข้าใจความต้องการขององค์กรของคุณ สามารถทำได้โดยการประเมินสิ่งต่างๆ อย่างละเอียด เช่น ความท้าทายของธุรกิจในปัจจุบัน ผลลัพธ์ทางธุรกิจ วัตถุประสงค์ในอนาคต และภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมของธุรกิจของคุณ
ด้วยการกำหนดวัตถุประสงค์และความท้าทายอย่างเป็นระบบ และการเตรียมโซลูชันเรื่องสถานที่ทำงานร่วมแบบไฮบริดให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และผลลัพธ์กลยุทธ์ของบริษัท องค์กรก็จะสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนต่อการได้ผลิตผลสูง การทำงานร่วมกัน และการเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประเมินความท้าทายและปัญหาในปัจจุบัน
เริ่มต้นด้วยการสอบถามจากหลากหลายแผนกในองค์กรของคุณ พวกเขามักจะเห็นอุปสรรคในการทำงานที่ส่งผลต่อความคืบหน้าของงาน โดยอาจใช้คำถามดังนี้เพื่อค้นหาข้อมูล: มีปัญหาเทคโนโลยีอะไรที่ทำให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพหรือไม่? ใช้เวลานานเท่าไหร่ในการเริ่มต้นการประชุม? ใช้เวลาในการค้นหาโต๊ะหรือห้องในสำนักงานนานไหม? อาจจะเกิดข้อบกพร่องในการสื่อสารระหว่างทีมที่ทำงานจากระยะไกลและทีมที่ทำงานในสำนักงานหรือไม่? ซึ่งตัวอย่างในชีวิตจริงอาจเป็นเรื่องของบริษัทที่ค้นพบว่าพนักงานที่ทำงานระยะไกลเผชิญกับปัญหาการเชื่อมต่อที่บ่อยครั้ง ทำให้เกิดอุปสรรคและประสิทธิภาพการทำงานลดน้อยลง
การสอบถามผู้บริหารอาจสามารถให้มุมมองที่แตกต่างกันได้ พวกเขามักมุ่งเน้นการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน จึงควรสอบถามพวกเขาดังนี้: จะทราบได้อย่างไรว่าเทคโนโลยีที่จะลงทุนเพื่อสนับสนุนธุรกิจของเราในปัจจุบันและในอนาคตคืออะไร? จะทำอย่างไรให้ได้ผลประโยชน์สูงสุดและลดต้นทุนเพื่อนำไปใช้ลงทุนเรื่องนวัตกรรม? จะจัดสรรเวลาและสร้างผลงานที่มีความหมายให้กับพนักงานอย่างไร? ในปัจจุบัน คุณมีการใช้สถานที่ทำงานอย่างไร?
ปรับเปลี่ยนวัตถุประสงค์และเป้าหมายขององค์กร
โซลูชันสถานที่ทำงานร่วมแบบไฮบริดต้องสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ขององค์กรไม่ว่าเป้าหมายจะเป็นการขยายกิจการ สร้างนวัตกรรม สร้างความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน สร้างความร่วมมือและประสิทธิภาพ หรือปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้า โซลูชันสถานที่ทำงานร่วมแบบไฮบริดต้องสนับสนุนการไปถึงเป้าหมายเหล่านี้ นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาเป้าหมายระยะยาวของบริษัทด้วย ดังนั้นโซลูชันควรจะสามารถขยับขยายและยืดหยุ่นเพื่อให้สามารถเติบโตและประสบความสำเร็จในโลกของการทำงานยุคใหม่
การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับโซลูชันสถานที่ทำงานร่วมแบบดิจิทัล
เมื่อเข้าใจความต้องการขององค์กรแล้ว สามารถสำรวจเครื่องมือโซลูชันสถานที่ทำงานร่วมแบบดิจิทัลที่มีอยู่หลากหลาย ตั้งแต่แพลตฟอร์มเต็มรูปแบบไปจนถึงเครื่องมือที่เฉพาะเจาะจงตามความต้องการ ลองศึกษาตัวอย่างของเครื่องมือที่ใช้เพื่อให้คุณได้เริ่มต้นการทำงานได้ในทันที
ประเมินคุณลักษณะและฟังก์ชันของสถานที่ทำงานแบบไฮบริด
ให้โฟกัสที่คุณลักษณะที่ตอบโจทย์ความต้องการองค์กรได้ ค้นหาฟังก์ชันที่สร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้งาน การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการทำงานร่วมกัน หรือการให้เทคโนโลยีทำงานอย่างไม่มีข้อผิดพลาดใช้โซลูชันในการแก้ปัญหา เช่น ป้องกันการใช้เทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมหรือการใช้จ่ายที่ไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับองค์กร ซึ่งคุณสามารถทำให้เกิดความมั่นใจได้ว่ากลยุทธ์องค์กรอยู่ในทิศทางที่ถูกต้องเหมาะสมโดยการอ้างอิงกลับไปถึงความต้องการขององค์กรของคุณ
ตัวอย่างเทคโนโลยีสถานที่ทำงานดิจิทัล
โซลูชันสำหรับที่ทำงานแบบผสม (Hybrid workplace solutions) ประกอบด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีหลายประเภทที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างการผลิต การทำงานร่วมกัน การสื่อสาร และประสิทธิภาพภายในองค์กร และสร้างสิ่งแวดล้อมที่เข้าถึงง่าย ผลักดันให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน นี่คือบางโซลูชันสำหรับที่ทำงานแบบไฮบริดและสิ่งที่ได้จากโซลูชันดังกล่าว
- โซลูชันการประชุม
การส่งเสริมความร่วมมือ เพิ่มผลงาน ให้ประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งานอย่างสม่ำเสมอสำหรับการทำงานแบบไฮบริด เพื่อให้มั่นใจว่าทุกผู้เข้าร่วมประชุม ไม่ว่าจะอยู่ในสำนักงานหรือระยะไกลจะสามารถเห็นและได้ยิน
พวกเขาจำเป็นต้อง "ทำงานได้" และมีความเสถียรพอที่จะเริ่มประชุมในไม่กี่วินาที ทำให้ธุรกิจสามารถโฟกัสที่การดำเนินงานและติดต่อลูกค้าของพวกเขาได้ เช่น การติดตั้ง Microsoft Teams ให้ประสบการณ์ของผู้ใช้ที่สม่ำเสมอในทุกประเภทของการประชุม และความสามารถในการเริ่มประชุมโดยการแตะเพียงครั้งเดียว ในขณะที่รวมเข้ากับสภาพแวดล้อม M365 ที่มีอยู่แล้ว
ไม่เพียงแค่ลดเวลาที่เสียไป แต่ยังลดความผิดหวังและความสับสนที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเกิดอุปสรรคในการเชื่อมต่อ - การบริหารพื้นที่ทำงาน
เป้าหมายของการบริหารพื้นที่ทำงานดิจิทัล คือการเสริมสร้างพื้นที่การทำงานแบบไฮบริด และอนุญาตให้ธุรกิจสามารถตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงในวิธีการทำงานโดยการสร้างประสบการณ์ของพนักงานอย่างไร้ที่ติ
ในการทำให้สำเร็จ องค์กรจึงรวบรวมกิจกรรมที่สามารถทำได้ เช่น การจองโต๊ะทำงาน, การจัดการห้องประชุม, การค้นหาเส้นทาง และอื่นๆ โดยให้พนักงานได้รับเครื่องมือที่ต้องการในการทำงานร่วมกันในพื้นที่ทำงานที่ทันสมัย ในขณะที่สนับสนุนให้พวกเขาสามารถเลือกเวลาที่ต้องการเข้าสำนักงานได้
สำหรับธุรกิจ การเก็บข้อมูลการใช้งานและแสดงผลบนแดชบอร์ดที่สามารถเข้าถึงได้เป็นการปลดล็อกข้อมูลและความสามารถที่จำเป็นในการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ เพิ่มความร่วมมือ และลดค่าใช้จ่าย เป็นการบริหารพื้นที่ทำงานที่สามารถพัฒนาได้ - อุปกรณ์อัจฉริยะ
การให้พนักงานใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับหน้าที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เมื่อพวกเขาได้รับเครื่องมือที่สำหรับงานที่เฉพาะเจาะจงก็จะสามารถทำงานได้เร็วขึ้นและมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น
ยกตัวอย่าง เช่น แท็บเล็ตซึ่งอาจเป็นเครื่องมือที่ปรับใช้งานได้หลากหลายสำหรับบุคคลที่มีบทบาทหน้าที่ในการสร้างผลงานเชิงสร้างสรรค์ สามารถใช้งานแคนวาสดิจิทัลและทำงานได้จากทุกที่ การใช้เทคโนโลยีสำหรับประชุมทางวิดีโอ สามารถเชื่อมต่อสมาชิกในทีมจากทั่วโลก สนับสนุนการทำงานร่วมกันไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม อุปกรณ์เครื่องพิมพ์อัจฉริยะในขณะนี้ ไม่ได้มีหน้าที่เพียงแค่พิมพ์เอกสารเท่านั้น แต่ยังเป็นระบบจัดการเอกสารอัตโนมัติ ที่สามารถจัดการข้อมูลที่ละเอียดอ่อนได้อย่างปลอดภัย รวมถึงยังสามารถสั่งซื้อวัสดุเพิ่มเติมได้ด้วยตัวเองอีกด้วย
เครื่องมือทางเทคโนโลยีที่เหมาะสมยังช่วยเน้นย้ำเรื่องของความปลอดภัย ปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา ชื่อเสียง และการเงินของบริษัท
ข้อพิจารณาในการเลือกสถานที่ทำงานดิจิทัลที่เหมาะสม
ด้วยตัวเลือกที่มีอยู่อย่างหลากหลาย อาจทำให้เกิดความยากในการตัดสินใจเกี่ยวกับตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับองค์กร สิ่งเหล่านี้คือรายการตรวจสอบเพื่อแนะนำตัวเลือกที่เหมาะสมต่อธุรกิจของคุณ
การตัดสินใจครั้งสุดท้าย
การตัดสินใจครั้งสุดท้ายควรเป็นการพิจารณาร่วมกันระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญต่อธุรกิจทั้งหมด โดยพิจารณาข้อดีและข้อเสียของโซลูชันสถานที่ทำงานแบบไฮบริดด้วย
- การพิจารณาและคัดเลือกผู้ให้บริการโซลูชันสถานที่ทำงานแบบไฮบริด: ดำเนินการวิจัยอย่างละเอียดเกี่ยวกับผู้ให้บริการ มองหาผู้นำอุตสาหกรรมที่สามารถให้บริการเป็นพันธมิตรในการแก้ไขปัญหาทางเทคโนโลยี พวกเขาจะสามารถให้บริการแบบสม่ำเสมอในระยะยาว พาองค์กรของคุณก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในอนาคต และสนับสนุนคุณไปสู่อนาคตได้หรือไม่?
- ขอการสาธิตและทดลองใช้งาน: ติดต่อผู้ให้บริการในรายชื่อที่ได้รับคัดเลือก และขอทดลองใช้บริการ ประสบการณ์ที่ได้รับจากการใช้งานจริงนี้สามารถนั้นไม่สามารถได้รับจากการนำเสนอขายหรืออ่านจากแผ่นพับได้ ควรขอหลักฐานที่แสดงถึงการบริการโซลูชันให้กับองค์กรที่มีความคล้ายกับองค์กรของคุณ อย่ากลัวที่จะถามคำถามตรงๆ หรือตรวจสอบข้อมูลที่คุณได้รับ กระบวนการนี้เน้นย้ำถึง ความสามารถของผู้ให้บริการโซลูชันพอๆกับคุณภาพของโซลูชันเอง คุณจึงจะสามารถไว้วางใจกับทั้ง 2 สิ่งได้
- น้ำหนักของข้อดีและข้อเสีย: สร้างเมทริกซ์และประเมินข้อดีและข้อเสียของแต่ละโซลูชันอย่างเป็นมีระบบ โดยใช้ปัจจัยที่กล่าวมาด้านบน เช่น ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน ความสามารถในการให้บริการ และการบริการสนับสนุนจากคู่ค้า เป็นต้น
- ให้ผู้เกี่ยวข้องสำคัญมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจ: กระบวนการตัดสินใจควรเป็นกระบวนการที่เข้าร่วมการพิจารณามุมมองของพนักงานที่จะเป็นผู้ใช้สุดท้ายและผู้จัดการด้านเทคโนโลยีที่รับผิดชอบในการให้โซลูชันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและผู้นำธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับวิธีการเติบโตของธุรกิจของพวกเขา
- ย้อนกลับไปอ้างอิงถึงเป้าหมายของคุณ: เมื่อคุณกำลังพิจารณาตัวเลือกคู่ค้า ต้องให้แน่ใจว่าคุณมีการวัดผลต่อระหว่างสิ่งที่คุณตั้งใจทำในโปรเจกต์นี้และข้อเสนอจากคู่ค้าว่าทำงานไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่
รองรับอนาคตแบบไฮบริดด้วยโซลูชันสถานที่ทำงานที่เหมาะสมที่สุด
การเลือกโซลูชันสถานที่ทำงานแบบไฮบริดเป็นตัวกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่อทุกด้านขององค์กรของคุณ โดยการลงทุนในโซลูชันสถานที่ทำงานแบบไฮบริดที่แข็งแกร่ง ธุรกิจสามารถมั่นใจได้ว่าพวกเขาได้ทำการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต และพร้อมที่จะยอมรับศักยภาพที่สมบูรณ์แบบของโลกไฮบริดที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
เกี่ยวกับผู้เขียน
Todd Vandenberg - GTM Lead, Hybrid Workplace - Ricoh APAC
เป็นเวลากว่าสองทศวรรษ ที่ Todd Vandenberg ผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงสถานที่ทำงานและรูปแบบการทำงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ช่วยธุรกิจให้ก้าวผ่านความท้าทายในการทำงานร่วมกันอย่างซับซ้อนเพื่อบรรลุผลลัพธ์ที่ดี
ในฐานะ Go-To-Market Manager ด้าน Hybrid Workplace ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของริโก้ เขามุ่งมั่นที่จะส่งมอบการเชื่อมต่อและการทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อในสถานที่ทำงาน ระหว่างทีมงาน พื้นที่ทำงาน และสถานที่ต่างๆ
พร้อมที่จะก้าวไปสู่ยุคที่มีสถานที่ทำงานแบบไฮบริดหรือยัง?
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างประสบการณ์การทำงานที่ดีขึ้นด้วยการเชื่อมต่อและการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องระหว่างทีมงาน พื้นที่ทำงาน และสถานที่ต่างๆ อย่างไร้ข้อกังวล
ติดต่อเราแหล่งข้อมูลแนะนำสำหรับคุณ
เราจะช่วยให้ทุกคนทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น เมื่อทุกคนทำงานต่างสถานที่แบบไฮบริดได้อย่างไร
ปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงให้กับทีมงานของคุณ มาดูกันว่าในโลกการทำงานแบบไฮบริด โซลูชันเพื่อการทำงานร่วมกันจะช่วยให้ผู้คนที่ทำงานต่างสถานที่กันสามารถสื่อสารระหว่างกัน ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกันได้อย่างไร
วิธีปกป้องสถานที่ทำงานดิจิทัลของคุณจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์
เรียนรู้วิธีปกป้องสถานที่ทำงานดิจิทัลของคุณจากการโจมตีทางไซเบอร์ เพื่อปกป้องข้อมูล ชื่อเสียง และธุรกิจของคุณ
ออกแบบ Hybrid Workplace อย่างไรให้ทำงานได้จริง
เผยกลเม็ดเคล็ดลับในการสร้างสถานที่ทำงานแบบไฮบริดที่ครอบคลุมทุกการทำงานสำหรับทุกคน เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงาน และทำให้พนักงานมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น