ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นแนวโน้มในการนำรูปแบบการทำงานแบบไฮบริดและระบบการจัดการงานที่มีความยืดหยุ่นมาใช้งานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผลักดันให้ธุรกิจทั่วโลกเปลี่ยนวิธีคิดและมุมมองในด้านสถานที่ทำงาน รวมถึงวิถีการทำงานในรูปแบบใหม่ แม้ว่าเทรนด์การทำงานนอกสถานที่ของพนักงานจะเพิ่มขึ้น แต่พื้นที่ทำงานอย่างออฟฟิศก็ยังคงมีความสำคัญเช่นกัน องค์กรต่างๆ เริ่มทบทวนบทบาทของออฟฟิศและออกแบบพื้นที่ใหม่เพื่อส่งเสริมการทํางานร่วมกัน ซึ่งเทรนด์การทํางานแบบไฮบริดนั้นกระตุ้นให้ธุรกิจต่างๆ ต้องการเครื่องมือการจัดการพื้นที่ทํางานที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างประสบการณ์การทํางานแบบดิจิทัลที่ราบรื่นมากขึ้น
เพื่อให้ธุรกิจยังคงสามารถแข่งขันและเติบโตในสภาพแวดล้อมการทํางานที่เปลี่ยนแปลงไปทั่วโลก ธุรกิจจําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของพนักงานและสถานที่ทํางานในอนาคต
เข้าใจการเปลี่ยนแปลงสู่การทํางานร่วมกันแบบไร้โครงสร้าง
การนํารูปแบบการทำงานแบบไฮบริดหรือที่เน้นความคล่องตัว (Agile) มาใช้งาน คือการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงในวิธีที่เราทํางานและโต้ตอบระหว่างกัน รวมถึงการตั้งคำถามและท้าทายมุมมองเกี่ยวกับ "ความสําเร็จ" ในที่ทํางานที่เรามีมาอย่างยาวนาน
รูปแบบที่ไร้โครงสร้างนี้ช่วยขับเคลื่อนการทํางานร่วมกัน รวมถึงสร้างนวัตกรรมที่ทลายกรอบความคิดเกี่ยวกับพื้นที่ทํางานแบบเดิมๆ โดยความยืดหยุ่นจะช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ให้กับพนักงานและทีม และช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนไอเดียที่ยอดเยี่ยมซึ่งกันและกันมากขึ้น เพื่อผลลัพธ์การทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
อย่างไรก็ตาม ยังมีเส้นแบ่งบางๆ ระหว่างการปะทะของความคิดสร้างสรรค์และความปลีกแยกไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอยู่ เมื่อพนักงานของคุณทำงานต่างสถานที่มากขึ้นและการสื่อสารมีโครงสร้างน้อยลง ก็อาจทำให้พวกเขามองข้ามเป้าหมายขององค์กรที่มีร่วมกันไปได้อย่างง่ายดาย ซึ่งอาจแก้ไขได้ด้วยการผสมผสานรูปแบบการทํางานร่วมกันที่มีโครงสร้างและไร้โครงสร้างตามลักษณะของงานและผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ต้องการ เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพนักงานให้สูงสุด แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น สิ่งที่สําคัญที่คุณควรคำนึงถึงคือ:
- เสริมสร้างพนักงานให้ทำงานร่วมกันได้อย่างอิสระ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนในองค์กรมีมุมมองในการทํางานร่วมกันและเป้าหมายของความสำเร็จที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
- ตระหนักว่าพนักงานของคุณคือมนุษย์คนหนึ่งเป็นสำคัญ โดยการสร้างวัฒนธรรมที่ครอบคลุมเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงระหว่างกันในฐานะมนุษย์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น บนพื้นฐานของการ “เอาใจเขามาใส่ใจเรา” (empathy)
ที่ริโก้ เราได้พิสูจน์พลังของการทํางานร่วมกันแบบไร้โครงสร้าง ที่ไม่เพียงแต่ทำให้ความคิดสร้างสรรค์สุดบรรเจิดเกิดขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ยังทําให้คนของเราตระหนักถึงจุดประสงค์ที่มีร่วมกัน และสามารถควบคุมแนวทางที่ริโก้กำลังก้าวไปในภาพรวมได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อเราทุ่มเทในการสร้างความไว้วางใจและความเคารพซึ่งกันและกัน และผลักดันความมุ่งมาดปรารถนาที่จะสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไปไกลกว่าตัวเรา
นวัตกรรมด้านดิจิทัลขับเคลื่อนความก้าวหน้าและประสิทธิภาพในที่ทํางานได้อย่างไร
เมื่อพนักงานของคุณมีรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป คุณจึงควรออกแบบออฟฟิศของคุณให้มีความคล่องตัวอยู่เสมอ การพัฒนาและปรับปรุงพื้นที่ทํางานด้วยเครื่องมือสำหรับพื้นที่ทํางานแบบดิจิทัลและโซลูชันคลาวด์เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น คุณค่าที่แท้จริงของเทคโนโลยีเหล่านี้จะแสดงให้เห็นได้ก็ต่อเมื่อคุณได้นำมาใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ
บริษัทขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ออฟฟิศมากกว่าอาจคุ้นเคยกับเครื่องมือเวิร์กโฟลว์แบบ cloud-based เป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่อาจยังไม่ทราบว่าโซลูชันสำหรับการจัดการพื้นที่ทํางานนั้นมีอะไรบ้าง ซึ่งในการวางแผนพื้นที่ทํางานแห่งอนาคตของคุณนั้น สิ่งที่สําคัญคือ:
ได้รับประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีที่ลงทุนไป
ออฟฟิศแห่งอนาคตจะต้องง่ายและสะดวกสบาย โดยช่วยให้ผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลจากทุกที่ได้ทันที มีเวิร์กโฟลว์เอกสารที่เป็นอัตโนมัติ การพิมพ์งานแบบไร้สัมผัส (contactless) บนเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันที่เชื่อมโยงผ่านระบบคลาวด์และสามารถเข้าใช้งานได้ด้วยเครื่องมือสำหรับการสแกนฝ่ามือหรือลายนิ้วมือ โดยสิ่งเหล่านี้จะทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณนั้นจะปลอดภัย และช่วยให้การแปลงเอกสารที่เป็นกระดาษให้กลายเป็นไฟล์ดิจิทัลมีประสิทธิภาพกว่าที่เคยพัฒนาให้พื้นที่ทำงานนั้นฉลาด ใช้งานง่าย และปลอดภัย
โซลูชันเพื่อการจัดการพื้นที่ทำงานยังคงเป็นสิ่งที่ไม่ได้ถูกนำมาใช้ในการออกแบบพื้นที่ทำงานเท่าที่ควร เครื่องมือต่างๆ เช่น ระบบจองโต๊ะและห้องประชุม ระบบจัดการผู้เยี่ยมชมแบบดิจิทัล หรือซอฟต์แวร์สำหรับป้ายดิจิทัล (digital signage) ไม่เพียงแค่เพิ่มประสิทธิภาพและเสริมสร้างพื้นที่ทำงานแบบ interactive แต่ยังมีประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยให้พนักงานของคุณกลับมาทำงานในออฟฟิศได้อย่างปลอดภัยสร้างสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นการทำงานร่วมกัน
การนำเครื่องมือสำหรับการทำงานร่วมกันมาใช้ภายในพื้นที่ออฟฟิศของคุณจะช่วยเสริมสร้างการทำงานเป็นทีมและความคิดสร้างสรรค์ เปลี่ยนพื้นที่ทำงานของคุณให้เป็นดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันที่ราบรื่น และช่วยให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ได้ ไม่ว่าจะทำงานที่ออฟฟิศ ทำงานที่บ้าน หรือที่อื่นๆ ที่พนักงานสามารถเลือกสถานที่ทำงานของตัวเองได้อย่างง่ายดาย
ปลดล็อกคุณค่าเพื่อธุรกิจของคุณอย่างเหนือชั้นด้วยรูปแบบการทำงานแบบไร้โครงสร้าง และเพิ่มขีดความสามารถให้กับพนักงานของคุณด้วยเครื่องมือที่ใช่ ซึ่งช่วยให้พวกเขาทำงานสำเร็จลุล่วงได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม โซลูชันต่างๆ ของเรา เช่น RICOH Spaces สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ให้คุณได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ในที่ทำงานได้อย่างสูงสุด ขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันและประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานให้มากขึ้น ด้วยการมอบประสบการณ์การทำงานแบบดิจิทัลที่ปลอดภัย เชื่อมโยงถึงกัน และเป็นไปอย่างราบรื่น
พร้อมหรือยังที่จะค้นพบว่า RICOH Spaces ช่วยนำพาคุณสู่พื้นที่ทํางานแบบไฮบริดได้อย่างไร
เรียนรู้วิธีที่เราสามารถช่วยคุณในการสร้างประสบการณ์การทํางานที่ดีขึ้นด้วยการเชื่อมต่อที่ราบรื่นและการทํางานร่วมกันระหว่างทีม พื้นที่ทํางาน และสถานที่ต่างๆ
แหล่งข้อมูลแนะนำสำหรับคุณ
เราจะช่วยให้ทุกคนทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น เมื่อทุกคนทำงานต่างสถานที่แบบไฮบริดได้อย่างไร
ปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงให้กับทีมงานของคุณ มาดูกันว่าในโลกการทำงานแบบไฮบริด โซลูชันเพื่อการทำงานร่วมกันจะช่วยให้ผู้คนที่ทำงานต่างสถานที่กันสามารถสื่อสารระหว่างกัน ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกันได้อย่างไร
วิธีปกป้องสถานที่ทำงานดิจิทัลของคุณจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์
เรียนรู้วิธีปกป้องสถานที่ทำงานดิจิทัลของคุณจากการโจมตีทางไซเบอร์ เพื่อปกป้องข้อมูล ชื่อเสียง และธุรกิจของคุณ
ออกแบบ Hybrid Workplace อย่างไรให้ทำงานได้จริง
เผยกลเม็ดเคล็ดลับในการสร้างสถานที่ทำงานแบบไฮบริดที่ครอบคลุมทุกการทำงานสำหรับทุกคน เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงาน และทำให้พนักงานมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น