โดยริโก้ประกาศเข้าร่วมธุรกิจกับ natif.ai สตาร์ทอัปผู้พัฒนาเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัย

วันที่ 22 เมษายน 2567 ณ กรุงโตเกียว – Ricoh Company, Ltd. ได้เปิดเผยในวันนี้ว่าบริษัทฯ ได้มีการเข้าร่วมธุรกิจกับ natif.ai บริษัทสตาร์ทอัปซอฟต์แวร์สัญชาติเยอรมัน ผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายโซลูชัน Interlligent Capture ซึ่งทำงานด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมถึงเทคโนโลยีการระบุและตรวจจับวัตถุบนภาพขั้นสูง (Advanced Image Recogintion) และเทคโนโลยีการตรวจจับและแปลงข้อความบนภาพให้เป็นตัวอักษร (OCR) โดยการร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้จะเข้ามาช่วยเพิ่มความสามารถให้กับฟังก์ชันการอ่านและแปลงเอกสารต่างๆ ด้วยโซลูชัน Process Automation ของริโก้ให้ทำได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเอกสารที่เป็นกระดาษหรือเอกสารที่เขียนด้วยลายมือ ริโก้จึงสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านระบบอัตโนมัติให้กับลูกค้า เพื่อจัดการกระบวนการทางธุรกิจที่ซับซ้อนและหลากหลายได้มากกว่าที่เคย

กระบวนการทำงานอัตโนมัติหรือ Process Automation ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ริโก้กำลังมุ่งมั่นพัฒนาอย่างแข็งขัน เพื่อสนับสนุนการปรับปรุงประสิทธิภาพ และพัฒนากระบวนการดำเนินงานของลูกค้าทั่วโลกด้วยโซลูชันที่หลากหลายครบวงจร บริการ Process Automation ของเราเริ่มต้นจากการสแกน ตรวจจับ และประมวลผลข้อมูลโดยใช้ผลิตภัณฑ์ (เช่น เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันและสแกนเนอร์) รวมถึงแอปพลิเคชันที่ช่วยในด้านการจัดการเวิร์กโฟลว์และเอกสาร การให้บริการ Outsource และระบบอัตโนมัติอัจฉริยะเพื่อการจัดการกระบวนการที่ซับซ้อน ริโก้ได้ขยายขอบเขตในการนำเสนอคุณค่าต่างๆ ให้กับลูกค้า โดยไม่เพียงแค่พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของตนเองเท่านั้น แต่ยังมีการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อนำเทคโนโลยีและบริการต่างๆ มาไว้ในมือ ซึ่งการร่วมมือทางธุรกิจกับ natif.ai ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ดังกล่าว

natif.ai เป็นบริษัทสตาร์ทอัปด้านซอฟต์แวร์ที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศเยอรมนีเมื่อปี ค.ศ. 2019 นอกเหนือจากจุดแข็งในด้านเทคโนโลยี Intelligent Capture และการเป็นผู้พัฒนาแนวหน้าในเทคโนโลยี Image Recognition และ OCR โดยใช้ AI ช่วยในการทำงานแล้ว natif.ai ยังมีแพลตฟอร์มบริการด้านการจำแนกเอกสารและการดึงข้อมูล ตลอดจนการวิจัยและพัฒนาโมเดล AI ประสิทธิภาพสูง และเทคโนโลยี OCR ที่เรียนรู้ผ่าน Machine Learning ที่ล้ำสมัย ซึ่งเทคโนโลยีทั้งหมดเหล่านี้จะช่วยให้การตรวจจับข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง และการดึงข้อมูลอัตโนมัติจากเอกสารทางธุรกิจหลากหลายประเภท เช่น ใบแจ้งหนี้ แบบฟอร์มคำสั่งซื้อ และหนังสือสัญญาต่างๆ ทำได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

โดยการเข้าร่วมมือธุรกิจทางธุรกิจของริโก้ในครั้งนี้เกิดขึ้นโดยบริษัท DocuWare หนึ่งในผู้ให้บริการด้านการจัดการข้อมูลเอกสารและระบบเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในประเทศเยอรมนี โดยในปัจจุบัน DocuWare เป็นบริษัทในเครือของริโก้กรุ๊ป โดยการผสานเทคโนโลยี Intelligent Indexing จาก natif.ai เข้ากับ DocuWare จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการตรวจจับข้อมูลและการทำระบบอัตโนมัติซึ่งขับเคลื่อนด้วย AI และทำให้สามารถนำไปปรับใช้ในธุรกิจหลากหลายประเภทยิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้ ทั้งเทคโนโลยี ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และบุคลากรของ natif.ai จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนการพัฒนาในด้านผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชันต่างๆ ของริโก้เพื่อมอบคุณค่าและประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี

คุณ Takahiro Irisa เจ้าหน้าที่อาวุโสและประธานหน่วยงานธุรกิจบริการดิจิทัลของ Ricoh Company, Ltd. กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อนรับบริษัท natif.ai สู่ครอบครัวของริโก้กรุ๊ป โดยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าของ natif.ai จะเป็นส่วนสำคัญต่อการเติบโตของเราอย่างขาดไม่ได้ โดยการตัดสินใจเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของริโก้ เพื่อทำให้โซลูชันของเราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้ง นอกเหนือจากเทคโนโลยีด้านเอกสารและกระบวนการทำงานที่เราสั่งสมมาอย่างยาวนาน ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันเพื่อสถานที่ทำงานระดับสากล เรามุ่งมั่นและทุ่มเทในการช่วยลดอุปสรรคในการทำงานด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI และเราจะยังคงมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับลูกค้าของเราอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างคุณค่าใหม่ๆ ในการทำงาน ช่วยให้ผู้คนได้ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ โดยตระหนักถึงสังคมที่ยั่งยืน ที่ผู้คนสามารถรู้สึกเติมเต็มจากการทำงานของตน”

ข้อมูลบริษัท narif.ai

• ชื่อบริษัท: Natif.ai GmbH
• ก่อตั้งเมื่อ: ค.ศ. 2019
• ที่ตั้ง: เมืองซาร์บรูกเคน ประเทศเยอรมนี
• ประเภทกิจการ:  บริการด้านระบบเอกสารอัตโนมัติ โมเดล AI ประสิทธิภาพสูง และเทคโนโลยี Deep-OCR ที่พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งช่วยเปลี่ยนการจัดการและการแยกหมวดหมู่เอกสารให้เป็นระบบอัตโนมัติอย่างอิสระผ่านแพลตฟอร์ม และอื่นๆ อีกมากมาย
• จำนวนพนักงาน:46 คน
• วันที่ริโก้เข้าซื้อหุ้นกิจการ:2 เมษายน ค.ศ. 2024