เจาะเทรนด์เทคโนโลยีระบบ Automation ในอุตสาหกรรมการผลิต

27 เม.ย. 2565
 

การขับเคลื่อนสู่การทำงานแบบ Automation หรือระบบอัตโนมัติด้วยหุ่นยนต์มีความสำคัญมากขึ้นตั้งแต่ที่ธุรกิจตั้งเป้าในด้านการตอบสนองที่รวดเร็วยิ่งขึ้นและปฏิบัติงานอย่างคล่องตัวมากขึ้นเพื่อให้ตามทันความต้องการของตลาด ในปี 2563 การระบาดของโรค โควิด 19 เข้ามาเป็นตัวเร่งในการรับเอาและพัฒนาโซลูชันระบบอัตโนมัติมากขึ้นด้วย

วันนี้เราจะมาพูดถึงเทรนด์ในปัจจุบันสองประการ ความต้องการที่เพิ่มขึ้น และข้อจำกัดในการปรับสเกล

เทรนด์ 1: Safety first

การล็อกดาวน์และความกังวลต่อความปลอดภัยของส่วนรวมเป็นตัวจำกัดการทำงานของแรงงานและผลักดันให้หลายๆ อุตสาหกรรมรับเอาระบบอัตโนมัติมาใช้งานเพื่อให้มั่นใจถึงความต่อเนื่องทางธุรกิจ สำหรับพื้นที่สาธารณะที่มีปริมาณคนหนาแน่น เช่น สนามบินและโรงพยาบาลหรือคลินิกต่างๆ ที่จำเป็นต้องปรับปรุงการทำความสะอาดให้เข้มงวดมากขึ้นก็มีงานใช้งานโซลูชันสำหรับการทำความทำอาดหรือการฆ่าเชื้ออัตโนมัติ ถึงแม้ว่าเราจะคาดหวังถึงการกลับมาปฏิบัติงานอย่างปกติ ธุรกิจต่างๆ ก็จะยังคงลงทุนในเรื่องโซลูชันที่ช่วยในด้านสุขภาพต่อไป

เทรนด์ 2 : อีคอมเมิร์ซในวันนี้

หนึ่งในความท้าทายที่เกิดจากการระบาดใหญ่ต่อผู้ใช้งานระบบอัตโนมัติก็คือการตอบสนองต่อความต้องการที่มากล้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่อีคอมเมิร์ซรุ่งเรืองเช่นนี้ ในขณะที่การชอปปิงออนไลน์ได้รับความนิยมอย่างสูง ธุรกิจด้านโลจิสติกส์รายใหญ่ก็เดินหน้าเพิ่มการลงทุนในโซลูชันระบบอัตโนมัติของคลังสินค้าเพื่อช่วยตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น

ตลอดทั้งปี 2563 และ 2564 ลูกค้าต่างหันมาพึ่งพาการใช้อีคอมเมิร์ซ และก็ถูกคาดการณ์ว่าพวกเขาจะไม่หันกลับมาจับจ่ายแบบเดิมเมื่อการระบาดสิ้นสุดลง ข้อมูลจาก ShipMatrix บริษัทติดตามข้อมูลการจัดส่งระบุว่า มีการจัดส่งพัสดุจำนวนมากกว่า 3 พันล้านชิ้นในสหรัฐอเมริการะหว่างวัน Thanksgiving และคริสต์มาสปี 2563 เพิ่มขึ้น 36% จาก 2.2 พันล้านในปี 2562 การเพิ่มขึ้นนี้ช่วยเร่งให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่อุปทานวางแผนที่จะปรับใช้ระบบอัตโนมัติ อีคอมเมิร์ซนั้นกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในตอนนี้และจะยังคงอยู่ต่อไป ผู้ค้าปลีกจะต้องปรับตัวเพื่อให้ตามทันความต้องการซึ่งโซลูชันอัตโนมัติคือกุญแจสำคัญ

ปรับสเกลเพื่อตอบรับความต้องการ

ด้วยความกระตือรือร้นและความสนในต่อระบบอัตโนมัติที่เพิ่มสูงขึ้น ความท้าทายอย่างหนึ่งในการปรับสเกลสำหรับบริษัทผู้ผลิตต่างๆ ก็คือการนำบริการและการสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพของเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้งาน
การปรับใช้ระบบอัตโนมัตินั้นเป็นเรื่องซับซ้อน ความไร้ประสิทธิภาพที่อาจเกิดขึ้นจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น บริการและการซัปพอร์ตด้านอุปกรณ์จะเป็นตัวหยุดยั้งผู้ขาย

บอกเล่าความจำเป็นและความต้องการของคุณต่อพาร์ทเนอร์ภายนอกเพื่อจัดการกับความซับซ้อนในการทำงาน และเปลี่ยนสู่โซลูชันแบบเบ็ดเสร็จเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด

ผู้ให้บริการระบบอัตโนมัติจำนวนมากได้เริ่มมีบทบาทในการเป็นพาร์ทเนอร์ภายนอกที่เชื่อถือได้สำหรับ Lifecycle ของอุปกรณ์ เช่น การติดตั้ง การสนับสนุนลูกค้าหลังการว่าจ้าง การสนับสนุนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ การบำรุงรักษา และการสนับสนุนทางเทคนิคระยะไกล

คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่น่าเชื่อจากการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ภายนอกที่เข้าใจถึงการปรับสเกลและการใช้กลยุทธ์อย่างมืออาชีพ

ที่มา : https://www.ricoh-usa.com/en/insights/articles/acceleration-of-automation-in-manufacturing