เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับพนักงาน
ธุรกิจค้าปลีกที่กำลังมองหาวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผลงานที่ผลิตโดยมนุษย์ ควรมองหาปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติมาใช้ ซึ่งเว็บไซต์ข่าว Chain Store Age เพิ่งได้พูดคุยกับคุณจิม เคอร์บี้ รองประธานฝ่าย Service Advantage ของริโก้อเมริกาเหนือ เกี่ยวกับความท้าทายที่ธุรกิจค้าปลีกต้องเผชิญอยู่ทุกวันนี้ ในการรักษาระดับการจัดหาบุคลากร และดูแลให้มั่นใจว่าพนักงานยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อกำลังใจของพนักงาน
โดยเคอร์บี้ได้หาข้อมูลอย่างละเอียดว่า ธุรกิจค้าปลีกสามารถนำเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างพวกหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมาใช้ประโยชน์เพื่อสนับสนุนพนักงานของตนในการทำงานที่ซับซ้อนและมีมูลค่าสูงขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร ซึ่งการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ก็เพื่อที่จะปรับปรุงงานที่ทำซ้ำเป็นประจำ และกระบวนการที่ต้องทำแบบแมนนวลเป็นส่วนใหญ่
ธุรกิจค้าปลีกจะช่วยหลีกเลี่ยงและแก้ไขปัญหาพนักงานที่หมดไฟได้อย่างไร
จากผลวิจัยในอุตสาหกรรมนี้ เราพบว่า พนักงานในธุรกิจค้าปลีกส่วนมากกล่าวว่า พวกเขารู้สึกว่าภาระงานที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการที่พนักงานเดิมลาออก และได้กลายเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่ทำให้พวกเขารู้สึกเครียดและหมดไฟ นอกจากนี้ ภาระงานที่พนักงานกลุ่มนี้กล่าวถึงมักเป็นงานที่มีจำนวนมากเกินรับไหว น่าเบื่อ และซ้ำซากจำเจ
พนักงานล้วนอยากรู้สึกว่าตนมีอำนาจที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในสถานที่ทำงานของตน มากกว่าที่จะใช้เวลาหมดไปกับการรู้สึกเหมือนตนเป็นเพียงเครื่องจักร แม้ฟังดูขัดแย้ง แต่การนำระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ เพื่อลดกระบวนการทำงานแบบแมนนวล ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่มองมนุษย์เป็นศูนย์กลาง
แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทั้งหมดนี้ก็นำไปสู่การมีประสิทธิภาพในการทำงานที่เพิ่มขึ้น กระบวนการทำงานที่คล่องตัวขึ้น และระยะเวลาที่ใช้ลดน้อยลง เมื่อปลดปล่อยพนักงานให้เป็นอิสระมากขึ้น พวกเขาก็สามารถไปให้ความสำคัญกับงานที่เป็นเชิงกลยุทธ์และงานที่มีความซับซ้อนกว่าได้ อีกทั้งยังสามารถใช้เวลาในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าโดยตรงได้มากขึ้น
การขาดแคลนพนักงานเป็นปัญหาหลักในปัจจุบัน แล้วธุรกิจค้าปลีกจะทำอย่างไรได้บ้างเพื่อก้าวข้ามผ่านความท้าทายนี้
ธุรกิจค้าปลีกหลายแห่งเริ่มมองหาเทคโนโลยี เช่น หุ่นยนต์หรือโคบ็อต (หมายเหตุ: โคบ็อตคือหุ่นยนต์ที่ฝึกฝนได้ ซึ่งออกแบบมาเพื่อทำงานควบคู่กับมนุษย์) เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวช่วยเพิ่มเติมจากพนักงานที่มีอยู่ เพื่อลดช่องว่างด้านบุคลากร อันเป็นเหตุมาจากการขาดแคลนแรงงาน การนำโซลูชันดังกล่าวมาใช้มักก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตัวนายจ้างและลูกจ้าง
หุ่นยนต์และโคบ็อตช่วยแบ่งเบาภาระจากงานที่ทำแบบแมนนวลและไม่ต้องใช้สมองมนุษย์ ซึ่งอำนวยให้พนักงานได้ใช้เวลาไปกับการขายสินค้าและมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น เทคโนโลยีเชิงนวัตกรรมเหล่านี้ยังช่วยให้พนักงานมีเวลามากขึ้นในการฝึกฝนและพัฒนาความเชี่ยวชาญของตน
นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ในการช่วยปิดช่องว่างด้านทักษะที่มักเป็นผลมาจากการขาดแคลนแรงงานอีกด้วย ผู้คนมักเข้าใจผิดกันว่าหุ่นยนต์และโคบ็อตเป็นโซลูชันที่จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ แท้จริงแล้ว หุ่นยนต์และโคบ็อตเป็นเพียงส่วนเสริมเพื่อช่วยให้พนักงานสามารถมุ่งความสนใจไปยังลูกค้าหรือกิจกรรมเชิงกลยุทธ์อื่นๆ แทนที่การให้ความสนใจไว้แค่เรื่องงานที่ซ้ำซาก
คำแนะนำสำหรับธุรกิจค้าปลีกที่กำลังหาวิธีนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เหมาะกับบริษัท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน
ผมให้คำแนะนำ 3 ประการแก่ลูกค้าทุกราย ประการแรกคือ โฟกัสที่นวัตกรรม ไม่ใช่การบำรุงรักษาและสนับสนุน เพราะจะเป็นการสร้างวิธีการใหม่ที่น่าตื่นเต้นและมีประสิทธิภาพในการเลือกซื้อสินค้า การนำเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรมมาใช้เสริมความพึงพอใจของลูกค้าและพนักงาน ถือเป็นการได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย
ประการที่สอง คือ ระวังการขยายโปรเจกต์ด้านเทคโนโลยีมากเกินจำเป็น เพราะจะเป็นการสร้างภาระให้พนักงาน และลดเวลาที่พวกเขาควรจะได้ใช้เพื่อสนับสนุนงานหลักของธุรกิจ
และประการที่สาม คือ หาหุ้นส่วนสักรายที่สามารถให้ความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีและให้คำปรึกษาคุณได้ในขณะที่คุณกำลังนำโซลูชันอัตโนมัติชิ้นใหม่ที่เหมาะกับองค์กรและความต้องการของลูกค้าเข้ามาใช้ โดยโปรแกรมเหล่านี้ต้องสนับสนุนการบังคับใช้กระบวนการและเทคโนโลยีอัตโนมัติรูปแบบใหม่ด้วย เพราะเมื่อมีกระบวนการใหม่เข้ามา ก็หมายถึงต้องมีการเรียนรู้อย่างไม่หยุดยั้ง จึงควรตรวจสอบให้มั่นใจว่าพนักงานสามารถใช้เทคโนโลยีต่างๆ ได้เมื่อจำเป็น (ในช่วงเวลาทำงาน) มิฉะนั้น พวกเขาก็จะปฏิเสธโมเดลการใช้งานของคุณ
แล้วโซลูชันและบริการของริโก้จะเข้ามาช่วยธุรกิจค้าปลีกต่างๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับพนักงานและการใช้เทคโนโลยีของบริษัทได้อย่างไร
RICOH Service Advantage ช่วยได้ทั้งสองประเด็น ผ่านการให้ทางเลือกกับธุรกิจค้าปลีกในช่วงการปรับใช้กระบวนการทำงาน ระบบอัตโนมัติ และเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแก่องค์กร โดยเรามีโปรแกรมฝึกอบรมผู้ใช้งานและโปรแกรมช่วยเหลือทางเทคนิคแบบครบวงจร รวมถึงบริการติดตั้งตอนเริ่มต้น ตั้งค่า และจัดเตรียมที่หน้าร้าน คลังสินค้า หรือศูนย์กระจายสินค้า นอกจากนี้ เรามีทีมทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยในการทำงานช่วงเริ่มต้น ให้คำปรึกษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับช่วงเวลาทำงาน และเลือกเทคโนโลยีใหม่ให้เหมาะกับขนาดบริษัท
โปรแกรมของเราจะประกอบไปด้วยการออกแบบการฝึกอบรมและการส่งมอบ บริการช่วยเหลือแก้ปัญหา การลงพื้นที่ ช่างในพื้นที่สำหรับการบำรุงรักษาตามระยะ การจัดการเรื่องการซ่อมแซม บริการช่วยเหลือในการติดตั้งเทคโนโลยีต่างๆ การเริ่มใช้ระบบอัตโนมัติ และอื่นๆ อีกมากมาย
เราทำงานกับผู้จัดการร้านและผู้ที่ผลิตเทคโนโลยีให้ร้านอย่างใกล้ชิด เพื่อจัดหาโปรแกรมส่งเสริมช่วงเวลาทำงาน การใช้งาน และการนำกระบวนการอัตโนมัติรูปแบบใหม่เข้ามาใช้ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีในหน้าร้านที่อำนวยความสะดวกต่อกระบวนการสำคัญในรูปแบบอัตโนมัติจนกระทั่งงานที่ทำเหมือนเดิมเป็นประจำ
เราสามารถช่วยพวกเขาติดตามทรัพย์สิน ระบุปัญหาที่ต้นตอ และหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่ไม่สามารถทำงานได้ ด้วยมาตรการควบคุมจากระยะไกลที่คาดการณ์ได้มากขึ้น ที่สำคัญคือ ริโก้ช่วยให้ธุรกิจค้าปลีกต่างๆ เร่งการเปลี่ยนแปลง และรักษาผลตอบแทนที่มีอยู่รวมถึงผลตอบแทนที่ได้มีการคาดไว้ ซึ่งมาพร้อมกับการลงทุนในเทคโนโลยีที่สำคัญในปัจจุบัน
ที่มา: RICOH USA
News & Events
Keep up to date
- 14พ.ย.
เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน IM C320F จากริโก้คว้ารางวัล Pick Award ประจำปี 2567 จาก Keypoint Intelligence
- 31ต.ค.
ริโก้เผยแพร่เอกสาร Ricoh Group Integrated Report 2024 และ Ricoh Group Environmental Report 2024
- 21ต.ค.
ลงทะเบียนฟรี งานสัมมนาออนไลน์จากริโก้ หัวข้อ “Cyber Transformation & Operations”
- 18ต.ค.
ริโก้เข้าร่วมเป็นสมาชิกสามัญในศูนย์ญี่ปุ่นเพื่อการมีส่วนร่วมและแก้ไขปัญหาทางธุรกิจและสิทธิมนุษยชน