ระบบงานพิมพ์ของคุณปลอดภัยแค่ไหน? เจาะลึกการใช้งานระบบอัตโนมัติและการปกป้องข้อมูล

ธุรกิจในปัจจุบันพึ่งพาระบบงานพิมพ์อัตโนมัติมากขึ้นเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพและปกป้องข้อมูลที่สำคัญ แนวโน้มที่เพิ่มขึ้นนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญไปสู่แนวทางใหม่ๆ ซึ่งไม่เพียงช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการทำงานเท่านั้น แต่ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความครบถ้วนของข้อมูลในงานพิมพ์ด้วย

เพื่อให้เข้าใจถึงความสำคัญของการปกป้องข้อมูลอย่างลึกซึ้ง เราได้พูดคุยกับ เจสัน โจนส์ วิศวกรที่ปรึกษาจากริโก้ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านเครื่องพิมพ์ระบบเครื่องกลไฟฟ้าและการผลิตที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์  

บทความนี้จะนำคุณไปสำรวจวิวัฒนาการของระบบงานพิมพ์ บทบาทของริโก้ในการขับเคลื่อนนวัตกรรม กลไกของระบบงานพิมพ์อัตโนมัติ และการหาสมดุลระหว่างประสิทธิภาพการทำงานกับการปกป้องข้อมูล  

วิวัฒนาการของระบบงานพิมพ์ – จากระบบแมนนวลสู่ระบบอัตโนมัติ  

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ระบบงานพิมพ์ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด จากกระบวนการแมนนวลสู่โซลูชันดิจิทัลที่มีความเป็นระบบอัตโนมัติสูง ไม่เพียงเท่านั้นอุตสาหกรรมอื่นๆจำนวนมากที่ไม่เคยเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการพิมพ์ก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมด้วย  

ผลกระทบที่สำคัญของเทคโนโลยีคลาวด์ที่มีต่ออุตสาหกรรมการผลิตงานพิมพ์ทำให้เกิดเทรนด์ในกลุ่มลูกค้าที่กำลังเปลี่ยนกระบวนการทำงานไปสู่โซลูชันคลาวด์ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการและติดตามงานจากระยะไกล พร้อมทั้งตอบสนองต่อความท้าทายที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างการทำงาน เช่น การทำงานจากบ้านที่เพิ่มมากขึ้น  

เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลมากนัก อย่างไรก็ตามการละเมิดข้อมูลที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทำให้อุตสาหกรรมจำนวนมากเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องข้อมูลอย่างเหมาะสม ดังนั้น ธุรกิจที่กำลังนำระบบอัตโนมัติมาใช้เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงเริ่มให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นกับการเพิ่มมาตรการปกป้องข้อมูลที่มีประสิทธิภาพเช่นกัน  

นวัตกรรมของริโก้ในเทคโนโลยีระบบงานพิมพ์

ในฐานะผู้บุกเบิกด้านเทคโนโลยีการพิมพ์ริโก้ถือได้ว่าเป็นแนวหน้าในการขับเคลื่อนนวัตกรรมเหล่านี้ การนำเทคโนโลยีคลาวด์มาใช้งาน ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการงานพิมพ์ได้อย่างราบรื่นจากทุกที่ เพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพในกระบวนการงานพิมพ์

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลเพิ่มมากขึ้นด้วยเหตุละเมิดข้อมูลต่างๆ ริโก้ก็ได้ให้ความสำคัญและยกระดับมาตรการปกป้องข้อมูลมากยิ่งขึ้น ความมุ่งมั่นของริโก้ในการพัฒนาและทำให้กระบวนการผลิตงานพิมพ์เป็นระบบอัตโนมัตินั้น สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจที่มองหาโซลูชันซึ่งมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

ทำความเข้าใจกับระบบงานพิมพ์อัตโนมัติ

เจสันสังเกตเห็นแนวโน้มที่ธุรกิจต้องการความเรียบง่ายในการจัดการงาน ตั้งแต่การรับสิ่งต่างๆเข้ามา ดำเนินการ และส่งมอบให้ลูกค้า บริษัทต่างๆเริ่มหันมาใช้ระบบอัตโนมัติเพราะกลัวว่าจะถูกคู่แข่งแซงหน้า ทั้งหมดนี้ล้วนเกี่ยวกับการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย การทำให้สิ่งต่างๆง่ายขึ้น และการก้าวนำหน้าในวงการเทคโนโลยี

องค์ประกอบสำคัญของระบบงานพิมพ์อัตโนมัติ

ระบบอัตโนมัติในกระบวนการพิมพ์เกี่ยวข้องกับการใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน ส่งผลให้ความสามารถในการดำเนินงานเพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อเริ่มนำระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้งานมากขึ้นและมีโปรแกรมต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ทำให้ความเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลเพิ่มขึ้นตามมา

“คุณต้องพิจารณาว่าองค์ประกอบอื่น ๆ อะไรบ้างที่อาจเป็นช่องทางสำหรับภัยคุกคามด้านความปลอดภัย ดังนั้นไม่เพียงแค่คุณต้องกังวลเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ แต่เมื่อคุณนำระบบการทำงานอัตโนมัติเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งโดยมากจะเกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ คุณต้องคำนึงว่าซอฟต์แวร์นั้นทำอะไร เชื่อมโยงกับอะไร และเข้าถึงข้อมูลใดได้บ้าง ซอฟต์แวร์นั้นดึงข้อมูลของคุณออกไปด้วยเหตุผลใดหรือไม่ ดังนั้นคุณต้องมองในมุมมองธุรกิจอย่างครบถ้วนและวิเคราะห์ทุกองค์ประกอบว่ามันทำอะไรกับข้อมูลของคุณบ้าง”

มาตรการรักษาความปลอดภัยในโซลูชันระบบงานพิมพ์ของริโก้

เมื่อเราก้าวเข้าสู่ระบบการทำงานอัตโนมัติหรือใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลบนคลาวด์ คำถามที่มักเกิดขึ้นคือ ข้อมูลของเราจะถูกส่งไปที่ไหนและจะเกิดอะไรขึ้นกับมัน ลูกค้ามักมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ข้อมูลของพวกเขาอาจรั่วไหลหรือถูกโจมตีจากผู้ไม่ประสงค์ดี การตอบสนองต่อความกังวลเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญ และริโก้ได้แก้ไขปัญหานี้ด้วยการให้ข้อมูลที่ชัดเจนและครบถ้วน  

“ซอฟต์แวร์ของเราหลายตัวมีเอกสารไวท์เปเปอร์ที่อธิบายทุกสิ่งที่ซอฟต์แวร์กำลังทำ ตั้งแต่คุณสมบัติที่มีในตัวไปจนถึง URL ที่เข้าถึง เราสื่อสารอย่างเปิดเผยกับลูกค้า อธิบายการทำงานของซอฟต์แวร์ ตรวจสอบให้มั่นใจว่ามันสอดคล้องกับกลยุทธ์ของพวกเขา และขอการอนุมัติจากทีมรักษาความปลอดภัย วิธีการเชิงรุกนี้ช่วยปกป้องข้อมูลของลูกค้าในทุกๆด้าน”  

การปรับสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและการปกป้องข้อมูล – วิธีของริโก้ในการใช้งานระบบการทำงานอัตโนมัติอย่างปลอดภัย  

หน่วยงานภายในบริษัท โดยเฉพาะในด้านการสร้างแบรนด์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ให้ความสำคัญกับการระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบผู้จัดจำหน่าย พันธมิตร ซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์อย่างละเอียด

ความมุ่งมั่นของริโก้ครอบคลุมถึงการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ว่าอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ของริโก้รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มาจากพันธมิตรจะได้รับการอัปเดตอยู่เสมอ เจสันเน้นย้ำถึงมาตรการที่ริโก้และผู้ให้บริการของบริษัทมีการเฝ้าติดตามฐานข้อมูลความเสี่ยงระดับชาติอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อให้สามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีเมื่อมีเหตุจำเป็น  

ตัวอย่างความสำเร็จของระบบงานที่สมดุล  

ปัญหาที่พบได้บ่อยในลูกค้าบางรายก่อนหน้าที่จะร่วมงานกับริโก้คือการขาดกลยุทธ์ด้านความปลอดภัยที่ครอบคลุม ธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการพิมพ์ เริ่มมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นและความจำเป็นในการปกป้องข้อมูล  

“หลายองค์กรตระหนักถึงความสำคัญของกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งในการปกป้องข้อมูลที่อ่อนไหว โดยเฉพาะเมื่อภัยคุกคามอย่างแรนซัมแวร์เพิ่มขึ้น การปรับสมดุลระหว่างประสิทธิภาพในการดำเนินงานกับการปกป้องข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาระบบงานพิมพ์ให้ปลอดภัยและยั่งยืน”

เมื่อลูกค้าสื่อสารความกังวลเหล่านี้มายังริโก้ เจสันได้อธิบายถึงแนวทางหลักสองประการของริโก้ไว้ว่า

1. ความปลอดภัยในตัวอุปกรณ์ของริโก้: อุปกรณ์ของริโก้มีความปลอดภัยมากกว่าอุปกรณ์ในท้องตลาดเมื่อเปรียบเทียบกัน เนื่องจากมีการใช้ซอฟต์แวร์ที่ทันสมัย
2. การช่วยลูกค้าเพิ่มความปลอดภัย: ริโก้มีบทบาทเชิงรุกในการช่วยลูกค้าปรับปรุงความปลอดภัยของอุปกรณ์ ซึ่งรวมถึงการปิดพอร์ตและโปรโตคอลที่ไม่ได้ใช้งาน การปิดบริการที่ไม่จำเป็น เพื่อลดช่องทางโจมตีและลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

เจสันเน้นย้ำถึงขั้นตอนปฏิบัติในการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยของระบบพิมพ์ว่า “เราไม่สามารถรับประกันได้ทั้งหมด และผมไม่คิดว่าองค์กรใดจะสามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีความเสี่ยงใดๆทั้งสิ้น แต่สิ่งที่เรากำลังทำคือการลดช่องทางการโจมตีให้เหลือน้อยที่สุด”

อนาคตของระบบงานพิมพ์อัตโนมัติ

อนาคตของระบบงานพิมพ์อัตโนมัติเต็มไปด้วยความเป็นไปได้ที่น่าตื่นเต้น “Machine Learning และ AI เป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงในข่าวสารอย่างกว้างขวางในช่วงที่ผ่านมานี้ ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ลูกค้าควรเริ่มจับตามองผลิตภัณฑ์ที่สามารถจัดการกับกระบวนการทำงานบางส่วนได้”

แม้ว่าเจสันจะสนับสนุนให้ลูกค้าปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เขายังเน้นถึงความสำคัญของการนำเครื่องมือวิเคราะห์ธุรกิจมาใช้เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่พลาดข้อมูลสำคัญใดๆ

“พวกเขาต้องการบางอย่างที่แตกต่างไปจากสเปรดชีตทั่วไป เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นงานแมนนวลที่ต้องทำด้วยมือ ซึ่งอาจทำให้คุณมองข้ามข้อมูลที่สำคัญได้ง่าย คุณจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำโดยไม่มีปัญหา และช่วยให้การตัดสินใจทางธุรกิจดียิ่งขึ้นด้วยข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง ไม่ใช่เพียงสิ่งที่คุณคิดว่ากำลังเกิดขึ้น” 

มุมมองนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการพิมพ์และความสำคัญของการผสานเครื่องมืออัจฉริยะเพื่อผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้น

บทสรุป

สรุปได้ว่า การมีระบบงานพิมพ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในโลกธุรกิจปัจจุบัน เจสันเน้นด้วยว่า ความเข้าใจผิดครั้งใหญ่ที่เขามักได้ยินคือ เมื่อลูกค้าคิดว่าเครือข่ายของตนซึ่งอยู่ในอินทราเน็ตปลอดภัยจากภัยคุกคามภายนอกทั้งหมด เพราะข้อมูลธุรกิจของพวกเขาไม่ได้เปิดเผยสู่สาธารณะ แต่สิ่งที่มักถูกมองข้ามคือ ภัยคุกคามจากภายใน เช่น พนักงานในองค์กรที่สร้างปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการขโมยข้อมูลหรือการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย

“การคิดเพียงว่า แค่ไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ธุรกิจของพวกเขาก็จะปลอดภัยจากภัยคุกคามทั้งหมดนั้นถือเป็นเรื่องที่เสี่ยง”

ดังนั้น ไม่ว่าธุรกิจจะเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตหรือไม่ก็ตาม ควรให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยภายในอย่างรอบคอบเช่นกัน ด้วยความเชี่ยวชาญและความเป็นผู้นำของ Ricoh ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีระบบงานพิมพ์ ทำให้ Ricoh เป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้สำหรับธุรกิจที่ต้องรับมือกับความท้าทายของระบบอัตโนมัติและการปกป้องข้อมูล

ที่มา:  RICOH USA