รู้หรือไม่? บริษัทของคุณอาจต้องการการจัดการคลังสินค้า

เพราะมีระบบคลาวด์ นวัตกรรมทางธุรกิจที่เคยมีราคาแพงจึงกลายเป็นเอื้อมถึงได้ บริษัทที่ผลิตและขายผลิตภัณฑ์ล้วนมีคลังสินค้า ซึ่งอาจเป็นสินค้าที่อยู่ในโกดังของคุณ อยู่ที่ตัวแทนจำหน่าย หรืออยู่ที่คู่ค้า นอกจากคลังสินค้าแล้ว คุณอาจมีคลังชิ้นส่วนประกอบ วัตถุดิบ เครื่องมือ และวัสดุต่างๆ ที่ใช้ในการผลิต รวมถึงสินค้าเคลมด้วย 

คุณควรรู้ว่าจะจัดการและติดตามสถานะคลังสินค้าอย่างไร จึงจะดำเนินการทางธุรกิจได้อย่างดี โซลูชันไอทีที่ซับซ้อนเป็นสิ่งที่ธุรกิจขนาดย่อมไม่เคยเอื้อมถึง (ไม่ว่าจะด้วยข้อจำกัดด้านราคาหรือขนาดธุรกิจ) แต่ในปัจจุบัน ระบบคลาวด์ทำให้ธุรกิจทุกขนาดเข้าถึงการจัดการคลังสินค้าได้อย่างเท่าเทียม 

หากธุรกิจของคุณยังใช้คลิปบอร์ดหรือตารางทำงาน หรือซอฟต์แวร์จัดการคลังสินค้าที่ตกยุค นี่คือไอเดียและคำแนะนำด้านระบบคลาวด์ที่อาจจำเป็นสำหรับคุณ 

จัดการคลังสินค้าบนคลาวด์ 

การใช้ระบบจัดการคลังสินค้าบนคลาวด์มีประโยชน์ทางธุรกิจที่น่าสนใจ เช่น 

• หมดกังวลเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์หน้างาน ให้คุณมั่นใจว่าระบบและข้อมูลปลอดภัยจากการโจรกรรม ความเสียหาย ไฟฟ้าดับ เครื่องร้อนมากเกินไป ระบบล้มเหลว และอื่นๆ บริการด้านคลาวด์จะช่วยบรรเทาความกังวลด้านฮาร์ดแวร์ไปได้  
• หมดความกังวลเรื่องการอัปเดตซอฟต์แวร์ บริการด้านคลาวด์จะรับมือกับเรื่องนี้เอง นอกจากนี้ คุณก็ไม่ต้องกังวลเรื่องระบบปฏิบัติการและการอัปเดต OS ด้วย 
• หมดกังวลกับซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องในเดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊กของพนักงาน ซอฟต์แวร์ด้านคลาวด์สามารถเข้าถึงได้ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ซึ่งมีแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ของพนักงานและลูกค้าด้วย 
• เข้าถึงได้จากทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นออฟฟิศ โกดัง หรือท้องถนน เพียงคุณมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สาย เดสก์ท็อปหรือโน้ตบุ๊ก แท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนอยู่กับตัว คุณก็สามารถเข้าถึงบริการคลาวด์ได้ ฟังก์ชันนี้ทำให้กลุ่มหรือทีมต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศสามารถทำงานร่วมกันได้
• จ่ายเงินให้กับบริการที่คุณต้องการและไม่ต้องกังวลว่าฮาร์ดแวร์และพื้นที่จัดเก็บจะไม่เพียงพอเมื่อข้อมูลเพิ่มขึ้น และสามารถรองรับข้อมูลจากออฟฟิศและโกดังอื่นๆ ได้ โดยไม่มีบริการไอทีเพิ่มเติม 

การจัดการข้อมูลบนคลาวด์ทำได้มากกว่าที่คิด 

การเคลื่อนย้ายไปสู่คลาวด์ไม่ใช่แค่การทำให้การจัดการคลังสินค้าง่ายขึ้น แต่ยังเพิ่มความสามารถในการจัดการคลังสินค้าของคุณได้ เช่น 

• ดูคลังสินค้าได้แบบเรียลไทม์ ดังนั้น จุดขายสินค้า ฝ่ายช่วยเหลือลูกค้า และฝ่ายอื่นๆ สามารถตรวจสอบได้ว่าสินค้านั้นๆ มีอยู่ในคลังหรือไม่ ปัญหาเกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลคลังสินค้าก็จะลดลงตามไปด้วย 
• รายงานลิสต์สินค้าที่ต้องส่งให้ลูกค้าไปที่โกดังโดยตรงได้ 
• ป้อนข้อมูลสินค้าเข้าและออกได้อัตโนมัติ รวมถึงด้วยระบบอ่านบาร์โคด 
• วิเคราะห์ยอดขายตามตำแหน่งที่ตั้ง ตัวแทนจำหน่าย เวลา ราคา และอื่นๆ 
• ติดตามการขนส่งสินค้า รวมถึงสินค้าสั่งซื้อซ้ำและสินค้าเคลม 
• บูรณาการกับบริการด้านขนส่งและ E-Commerce เช่น Amazon, eBay, ShipStation, UPS และ Fedex
• สร้างแนวทางการตรวจสอบบัญชี 

เชื่อมต่อคลังสินค้าเข้าสู่ระบบไอทีอื่น 

ระบบคลังสินค้าใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางธุรกิจอื่นๆ ด้วย เช่น การติดตามสถานะลูกค้า การออกใบแจ้งราคาสินค้า การขนส่ง การทำบัญชีเงินเดือน การทำบัญชีทั่วไป การบริหารทรัพยากรบุคคล การขาย ณ จุดขายสินค้า และการจัดตารางเวลา ซึ่งหลายกิจกรรมทางธุรกิจดังกล่าวทำงานภายใต้ ERP (การวางแผนทรัพยากรองค์กร) หรือ CRM (ระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์) 

การมีข้อมูลในระบบคลาวด์ทำให้บูรณาการกับฟังก์ชันอื่นๆ หรือประสานการทำงานกับโปรแกรมและบริการทางธุรกิจอื่นๆ ได้ง่ายดาย คุณควรถามผู้ให้บริการคลาวด์ให้ชัดเจนว่า มีบริการฟังก์ชันหรือโมดูลอื่นๆ เพิ่มเติมหรือไม่ ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ภายนอกอะไรบ้าง และมี APIs (ซอฟต์แวร์ที่ทำให้ระบบซอฟต์แวร์ต่างๆ เชื่อมต่อ และคุยกัน) อะไรบ้างที่คุณสามารถใช้งานได้ 

การจัดการคลังสินค้าบนคลาวด์มีข้อดีมากมาย ทั้งทำให้การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์แม่นยำขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจเพื่อระบุโอกาสทำกำไรได้ และลดความผิดพลาดทางบัญชี นอกจากนี้ ฝ่ายบัญชี ฝ่ายขาย และฝ่ายผลิตสามารถใช้ข้อมูลเชิงลึกนี้เพื่อพัฒนาธุรกิจในด้านอื่นๆ ได้ด้วย 

ที่มา:  RICOH USA