ความคล่องตัวของข้อมูล : ทำไมธุรกิจของคุณจึงขาดสิ่งนี้ไม่ได้

25 ต.ค. 2564

หากพูดถึงความคล่องตัวของข้อมูล นั่นอาจทำให้คุณนึกถึงโทรศัพท์ใช่หรือไม่

นั่นถูกต้อง ความคล่องตัวของข้อมูลนั้นรวมถึงโลกของเทคโนโลยีเคลื่อนที่ด้วย แต่มันมีอะไรมากกว่านั้นอีก

ความคล่องตัวของข้อมูลคืออะไร มันสามารถแปลงบันทึกยาวนานหลายทศวรรษให้เป็นดิจิทัลได้ ดังนั้นคุณจึงสามารถค้นหาสิ่งที่คุณต้องการบนแท็บเล็ตของคุณได้

มันคือการที่คุณเข้านอนอย่างสบายใจแต่ในละคืนเพราะรู้ว่าโครงสร้างพื้นฐานทางไอทีของคุณใช้การป้องกันใหม่ล่าสุดเพื่อป้องกันแฮ็กเกอร์ ไวรัส และโทรจัน

มันคือการที่คุณตื่นนอนตอนตี 5 ในโรงแรมที่อยู่ในอีกซีกโลกหนึ่งและสามารถเข้าถึง Share drive ของบริษัทได้ทันที

มันคือการรู้ว่าจะจัดการกับทีมที่มีนักศึกษาจบใหม่อายุ 23 ปีกับพนักงานอายุ 30 ปี อย่างไรเพื่อให้ทั้งคู่เกิดประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จ

มันคือความสามารถในการแปลงรูปแบบเอกสารกระดาษไปสู่เอกสารดิจิทัลในรูปแบบใดก็ตามที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะสำหรับการทำงานนอกสถานที่หรือภายในออฟฟิศก็ตาม

มันคือการใช้ระบบ Big data ในการจัดทำดัชนี จัดเก็บ จัดระเบียบ และทำความเข้าใจข้อมูลในอดีตของคุณเพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงลึกที่สามารถช่วยในการตัดสินใจในอนาคตได้

มันคือการมีเทคโนโลยีที่คุณต้องการ การเข้าใจโลกใบใหม่ของการทำงาน และรู้ว่าจะตัดสิ่งรบกวนเพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูลทางธุรกิจที่สำคัญของคุณได้ทุกที่ทุกเวลาได้อย่างไร

และนั่นก็คือความคล่องตัวของข้อมูลและในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปนี้มันคือสิ่งที่ธุรกิจของคุณจำเป็นจะต้องประสบความสำเร็จ

ความคล่องตัวในอดีต

ย้อนกลับไปเมื่อ 25 ปีที่แล้ว แนวคิดเรื่องความคล่องตัวนั้นแตกต่างจากปัจจุบันนี้มาก การทำงานร่วมกัน ประสิทธิภาพ และประสิทธิผลมีความสำคัญพอๆ กับตอนนี้ ธุรกิจต่างๆ ใช้เทคโนโลยีของวันนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ คุณอาจจะสามารถนั่งเครื่องบินไฟล์ทดึกข้ามประเทศเพื่อมาพบลูกค้าต่อหน้าได้ หรือคุณอาจจะสามารถส่งแฟกซ์แทนการส่งไปรษณีย์ที่ใช้เวลานานกว่าได้ สิ่งเหล่านี้คือนวัตกรรมรูปแบบการทำงานที่ช่วยปฏิวัติวิธีการทำงานของเรา แต่ธุรกิจเหล่านี้ไม่ได้มีอะไรใกล้เคียงกับความคล่องตัวของข้อมูลที่แท้จริงเลย

ท้ายที่สุดแล้วบริษัทก็ยังคงจัดเก็บบันทึกต่างๆ ในรูปแบบกระดาษ เครื่องพิมพ์นั้นอาจทำงานช้าและมีค่าใช้จ่าย ยิ่งถ้าเป็นเครื่องแฟกซ์ด้วยแล้วก็ยิ่งช้าลงไปอีก โทรศัพท์มือถือเป็นวิถีทางเดียวที่จะช่วยในการทำงานร่วมกันกับเพื่อนร่วมงานของคุณแบบ Real time ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ห้องข้างๆ หรืออยู่คนละประเทศก็ตาม

ในที่สุดวันนี้เราก็มีเทคโนโลยีเพื่อความอำนวยความสะดวกด้านความคล่องตัวของข้อมูลอย่างเต็มรูปแบบ ตัวอย่างเช่น Video Conference ที่ช่วยให้คุณได้พูดคุยกันต่อหน้าแบบ Real time หรือ Digital Records Management ที่เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการรักษาคนไข้ ช่วยให้แพทย์สามารถเข้าถึงประวัติการรักษาคนไข้ได้ทันทีทำให้ช่วยชีวิตคนไข้ได้มากขึ้น หรือเครื่องมัลติฟังก์ชันต่างๆ ที่สามารถพิมพ์เอกสารนับหมื่นได้ในพริบตา และแน่นอนว่ารวมถึงอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่าง สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตด้วย

เรายังคงอยู่ในยุคเริ่มต้นของอุตสาหกรรมอุปกรณ์เคลื่อนที่ แต่เราก็ได้เห็นแล้วว่าอุปกรณ์เหล่านั้นได้เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของเราอย่างไร แอปพลิเคชันทางธุรกิจทำให้เราสามารถใช้กระบวนการอัตโนมัติในการทำงานที่จากเดิมอาจใช้เวลานานหลายชั่วโมง ทำให้พนักงานมีเวลาโฟกัสกับโปรเจกต์ที่สำคัญกับธุรกิจมากขึ้น แท็บเล็ตกลายมาเป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับทุกสิ่งตั้งแต่อีเมลไปจนถึงการจดบันทึก และตอนนี้ผู้คนก็สามารถเข้าถึงงานของพวกเขาได้ทุกที่ทุกเวลา

 

ผลที่ไม่คาดคิด

อย่างไรก็ตามความคล่องตัวของข้อมูลเป็นมากกว่าการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางด้านธุรกิจ มันคือความเข้าใจถึงผลกระทบที่เครื่องมือเหล่านี้มีต่อพนักงาน การรักษาไว้ซึ่งความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานได้กลายมาเป็นสิ่งท้าทายยิ่งขึ้น และการเปลี่ยนแปลงของกำลังคนก็กำลังสร้างความแบ่งแยกระหว่างคนรุ่นต่างๆ เนื่องจากกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลเข้าสู่ตลาดแรงงานและกลายเป็นเพื่อนร่วมงานของคนงานที่มีอายุมากกว่าและเป็นที่ยอมรับ

มันไม่ใช่เพียงแค่ความแตกต่างทางด้าน Generation แม้แต่คนที่มีอายุเท่ากันแต่มีสไตล์กันทำงานที่แตกต่างกันก็สร้างความท้าทายได้อย่างมาก คนที่ชอบการจดทุกอย่างลงบนกระดาษกับคนที่พก IPad ติดตัวไปด้วยทุกที่ ความแตกต่างเหล่านี้ก็สามารถพบได้ในที่ทำงาน การรู้ว่าจะเข้าใจพวกเขาได้อย่างไรและทำให้พวกเขาทำงานอย่างเป็นประโยชน์ร่วมกัน นั่นเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยาก

จากประเด็นที่หลายๆ บริษัททำผิดต่อๆ กันมาก็คือพวกเขาไม่ได้มองมนุษย์เป็นองค์ประกอบหนึ่งของงาน พวกเขาพูดถึงความคล่องตัวขององค์กร เทคโนโลยีที่สร้างนวัตกรรมต่างๆ แต่พวกเขาลืมไปว่ามนุษย์ยังเป็นหัวใจสำคัญของทุกๆ ธุรกิจ ก่อนที่คุณจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ คุณต้องมีพนักงานที่สามารถสื่อสารและทำงานร่วมกันได้ พนักงานที่พอใจในความท้าทาย พนักงานที่เข้าถึงโปรเจกต์อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว พนักงานที่ทำงานได้ดี

เพราะหากปราศจากผู้คนแล้ว คุณก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวข้อมูลได้

ความคล่องตัวของข้อมูลเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง

คุณมีเทคโนโลยีที่คุณต้องการแล้ว เข้าใจความสำคัญของผู้คนในการขับเคลื่อนธุรกิจแล้ว คำถามที่เหลือตอนนี้คือคุณจะทำให้ข้อมูลเหล่านั้นทำประโยชน์ให้กับธุรกิจได้อย่างไร

เมื่อพิจารณาถึงเรื่องนี้แล้วจะพบว่าข้อมูลเป็นหัวใจสำคัญของทุกๆ อย่างที่เราทำ ทุกๆ ธุรกิจไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กนั้นก็ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและวิธีการที่เราเข้าถึง ใช้งาน และแบ่งปันข้อมูลในระบบเศรษฐกิจข้อมูลรูปแบบใหม่นี้ มันเป็นเรื่องพื้นฐานสำหรับทุกๆ โปรเจกต์ที่เรากำลังดำเนินการ ทุกการลงทุน และทุกๆ นวัตกรรม ข้อมูลข่าวสารล้วนเป็นสิ่งสำคัญ

การจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ การค้นหาสิ่งที่สำคัญและสามารถดำเนินการกับข้อมูลนั้นได้อย่างรวดเร็ว คือสิ่งที่แบ่งแยกธุรกิจที่ประสบความสำเร็จออกจากธุรกิจที่ล้มเหลว การสร้างความคล่องตัวของข้อมูลจะทำให้องค์กรของคุณนำหน้าไปหนึ่งก้าวเสมอ

คำถามสำคัญ

แล้วธุรกิจของเราจะมีความคล่องตัวของข้อมูลได้อย่างไร คำตอบนั้นแตกต่างไปตามแต่ละธุรกิจ

เนื่องจากบริษัทระดับองค์กรก็จะไม่มีความต้องการเหมือนกับธุรกิจขนาดเล็กทั่วไป ทุกธุรกิจมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขามีความต้องการเหมือนกันก็คือการทำให้ข้อมูลสร้างประโยชน์ให้กับพวกเขา

โดยรวมแล้วนี่คือ 3 สิ่งที่ธุรกิจของคุณต้องการ

  1. เทคโนโลยีที่จะสร้างการเชื่อมต่อให้คุณและสร้างการเข้าถึง การใช้และการแชร์ข้อมูลในรูปแบบที่คุณต้องการไม่ว่าจะเป็นกระดาษหรือดิจิทัล วิดีโอหรือข้อความ
  2. แรงงานที่มีส่วนร่วมซึ่งมีความเข้าใจถึงความต้องการ รูปแบบการทำงาน และลักษณะเฉพาะ เพื่อสร้างการเปิดโอกาสให้พวกเขาประสบความสำเร็จ
  3. ข้อมูลที่ได้รับการจัดการอย่างปลอดภัยทั่วทั้งบริษัทของคุณ

ที่มา: https://www.ricoh-usa.com/en/insights/articles/information-mobility-why-your-business-cant-be-without-it