เทคโนโลยีล้าสมัยเป็นภัยต่อธุรกิจ

คุณทำงานอยู่ในออฟฟิศหรือเปล่า? ถ้าใช่ เราสัญญาว่าจะทำให้ประสบการณ์ในออฟฟิศของคุณคุ้มค่าที่สุด 

ลองมองไปรอบตัวสิ คุณเห็นอะไรบ้าง? คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเก่าๆ หรือแล็ปท็อปรุ่นล่าสุด? ใครสักคนยืนอยู่ที่เครื่องพิมพ์ รอให้เครื่องพิมพ์เอกสารวาระการประชุม หรือพนักงานแชร์ไฟล์วาระการประชุมกันด้วยแท็บเล็ต? เมื่อคุณมองธุรกิจของคุณ คุณมองเห็นโลกแห่งการทำงานยุคเก่าหรือยุคใหม่? 

หากจะถามให้ตรงประเด็นขึ้น คือ บริษัทของคุณมีระบบข้อมูลเคลื่อนที่หรือไม่? 

โลกการทำงานยุคใหม่อยู่กับความเปลี่ยนแปลง ทั้งการเปลี่ยนทักษะพนักงาน เปลี่ยนวิธีการแชร์ข้อมูล และเปลี่ยนเทคโนโลยีเพื่อให้ทำงานได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น โลกเพิ่งทำความรู้จักกับสมาร์ทโฟนได้ไม่ถึง 10 ปี และในปัจจุบัน มันได้เปลี่ยนวิธีการทำงานของเราอย่างสมบูรณ์ และผู้คนทั่วโลกยังผลิตข้อมูลคิดเป็น 300 เท่าของข้อมูลที่บรรจุอยู่ในหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน เราผลิตข้อมูลจำนวนมากนี้วันต่อวัน ทั้งนี้ จำนวนข้อมูลที่เราผลิตและเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาเพื่อตอบรับการเติบโตของข้อมูลยังไม่มีทีท่าว่าจะลดน้อยลง 

เทคโนโลยีเปลี่ยนไปเร็วมากจนยากที่จะไล่ตาม แต่ข่าวดีคือยังไม่สายไปที่ภาคธุรกิจจะเริ่มต้น แต่จะเริ่มตรงไหนล่ะ? 

การเปลี่ยนผ่านอันรวดเร็ว 

ถ้าคุณมองไปรอบตัวแล้วยังเห็นเทคโนโลยีล้าสมัย  ทั้งตู้เก็บเอกสารฝุ่นเขรอะและพื้นที่ทำงานที่จัดเรียงเป็นแถวและแบ่งเป็นคอก เราก็มีข่าวร้ายจะบอกคุณ ธุรกิจของคุณยังคงติดอยู่ในเทคโนโลยียุคหิน และยิ่งคุณเปลี่ยนแปลงช้าเท่าไร ธุรกิจของคุณจะล้าสมัยมากเท่านั้น 

มุมมองที่จำเป็นต่อธุรกิจ 

จุดเริ่มต้นที่ดีคือโครงสร้างระบบไอทีของธุรกิจในปัจจุบัน นั่นคือเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ ที่ทั้งเป็นฐานสำคัญของเครือข่าย จัดเก็บข้อมูลสำคัญทางธุรกิจ และเชื่อมโยงคุณกับลูกค้า สิ่งนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญของทุกธุรกิจ แต่ธุรกิจนับล้านยังคงพึ่งพาเทคโนโลยีที่ล้าสมัย เช่น ซอฟต์แวร์ที่มีอายุใช้งานกว่า 10 ปี เพื่อรองรับการทำงานต่างๆ คุณไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ด้วยสิ่งที่คอยถ่วงรั้งคุณให้ติดอยู่กับอดีตเช่นนี้   

ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่คุณจะให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ความคล่องตัวของข้อมูล คุณสร้างโครงสร้างระบบเคลื่อนที่ที่ซัพพอร์ตโลกการทำงานยุคใหม่แล้วหรือยัง? โลกที่พนักงานสามารถทำงานจากระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทุกที่ ทุกเวลา คุณเคยพิจารณาใช้นโยบาย Bring Your Own Device (BYOD) ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่ของพนักงานเข้ากับเครือข่ายของสถานทำงานบ้างไหม? ยิ่งไปกว่านั้น คุณเคยนึกถึงผลดีที่จะตามมาจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไหม? 

BYOD อาจเป็นองค์ประกอบจำเป็นสำหรับธุรกิจยุคใหม่ แต่ก็ยังมาพร้อมกับประเด็นที่น่าเป็นห่วงหลายประการ ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของเครือข่าย คุณต้องจัดการกับประเด็นเหล่านี้ก่อนที่จะนำนโยบายมาใช้งานจริง โลกการทำงานยุคใหม่ต้องการระบบเคลื่อนที่ และการใช้กลยุทธ์ระบบเคลื่อนที่ที่ตรงกับความต้องการเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ช่วยที่สามารถนำทางคุณในระหว่างการเปลี่ยนผ่านจะทำให้โลกของคุณเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น 

สุดท้ายนี้ คิดให้ดีว่าคุณทำงานร่วมกันในองค์กรอย่างไร โดยเฉพาะหากคุณทำงานในธุรกิจที่มีสำนักงานสาขาทั่วประเทศหรือทั่วโลก คุณใช้เวลานานเท่าไรในการเดินทางด้วยเครื่องบินไปพบปะกับเพื่อนร่วมงาน? คุณใช้เวลาประชุมทางไกลอย่างยาวนานโดยไม่มีอะไรคืบหน้าบ่อยแค่ไหน? แล้วถามคำถามสักข้อกับตัวเองว่า ถ้าเราสามารถพาคนคนหนึ่งไปเหยียบดวงจันทร์ได้เมื่อ 45 ปีก่อนด้วยระบบเสียงและวิดีโอ ทำไมเราจะทำให้การสื่อสารระหว่างผู้คนในปัจจุบันดีขึ้นไม่ได้? ในเมื่อเทคโนโลยีต่างๆ พร้อมให้บริการด้านการสื่อสารด้วยภาพและเสียงแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าคนคนนั้นจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ทุกวันนี้ คุณยังสามารถเชื่อมโยงกับลูกค้าได้ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า แทนที่จะปล่อยให้ลูกค้าถือสายรอให้พนักงานสักคนในฝ่ายการบริการลูกค้ารับสาย 

และนี่เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น ยังมีอะไรอีกมากที่ยังรอให้คุณศึกษา 

โลกแห่งความคล่องตัวของข้อมูล 

ประเด็นที่กล่าวมาคือเทรนด์ที่ผลักดันให้โลกการทำงานยุคใหม่เคลื่อนไปข้างหน้า ผู้คนทั่วโลกกำลังทำงานได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นจากทุกที่ และนี่คือสาระสำคัญของความคล่องตัวของข้อมูล เมื่อคุณมองไปที่เทคโนโลยี กระบวนการทำงาน และการจัดการข้อมูลในธุรกิจของคุณ คุณต้องสามารถกล่าวได้ว่าข้อมูลทางธุรกิจที่สำคัญกำลังทำงานให้ธุรกิจของคุณเดินหน้าต่อไป 

โลกธุรกิจกำลังเปลี่ยนแปลงไป แต่การหาเส้นทางก้าวไปสู่อนาคตยังคงเรียบง่ายเหมิอนกับการหาพาร์ทเนอร์ที่่ทุ่มเทช่วยเหลือให้คุณทำงานได้ดียิ่งขึ้น 

เพราะข้อมูลควรช่วยให้คุณทำงานได้ดีขึ้นในโลกการทำงานยุคใหม่ และโลกนั้นมาถึงแล้ว 

จับมือเรา แล้วตามโลกให้ทัน  

ที่มา:  RICOH USA