ทำอย่างไรจึงจะสามารถสื่อสารทางไกลกับพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันสถานที่ทำงานต้องอาศัยการทำงานร่วมกันเป็นอย่างมาก พนักงานต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันเพื่อเสริมสร้างขวัญและกำลังใจ ระดมความคิด ตั้งเป้าหมาย แลกเปลี่ยนข้อมูลทางธุรกิจที่สำคัญ และเพื่อการขับเคลื่อนธุรกิจ เมื่อทีมของคุณสามารถประสานงานและทำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมีการทำงานจากระยะไกลมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้นำในธุรกิจกำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ เช่น ทำอย่างไรให้สมาชิกในทีมมีส่วนร่วมและสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว
การทำงานจากระยะไกลนั้นเกิดขึ้นมาหลายทศวรรษแล้ว แต่ยังไม่เคยเกิดขึ้นในวงกว้างและในระดับที่เร่งด่วนเหมือนในปัจจุบัน ในช่วงต้นปี ค.ศ.2020 มีคนทำงานจากระยะไกลในสหรัฐอเมริกามากถึง 7 ล้านคน และคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น เนื่องจากหลายบริษัทออกนโยบายให้มีการทำงานจากที่บ้านเพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของพนักงาน
ทุกวันนี้ ปัญหาหลักๆ ที่เห็นได้ชัดที่สุดเมื่อพูดถึงการทำงานร่วมกัน ได้แก่:
- การขาดการสื่อสารแบบเรียลไทม์ระหว่างเพื่อนร่วมงานและผู้จัดการ
- การแชร์ไฟล์มีความล่าช้าและขาดประสิทธิภาพ
- การมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ไม่รัดกุม และนำไปสู่ความเสี่ยง
- การค้นหาเอกสารและข้อมูลที่ใช้เวลานาน
- การพึ่งพาแผนก IT เมื่อต้องการความช่วยเหลือ
ไม่ว่าทีมงานของคุณจะทำงานจากที่บ้านบางส่วนหรือทั้งหมด เป้าหมายที่สำคัญคือการทำให้พนักงานมีส่วนร่วมและส่งเสริมพลังในการขับเคลื่อนองค์กร ในโลกที่ “ธุรกิจไม่เคยหยุดนิ่ง” ทีมของคุณต้องการความรวดเร็ว เทคโนโลยี และความสามารถในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพทุกที่ทุกเวลา ทุกธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวเข้าสู่การทำงานในรูปแบบใหม่หรือ “New Normal” เพื่อการทำงานที่ไร้พรมแดน
“บริษัทต่างๆ ทั่วประเทศกำลังเผชิญกับความท้าทายที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงการสร้างความมั่นใจว่าธุรกิจจะพร้อมรับและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว จากการวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าหลายองค์กรได้มองข้ามผลประโยชน์ทางการเงินและกลยุทธ์ที่จะได้รับจากความสามารถในการทำงานได้จากทุกที่ บริษัทจึงควรต้องเริ่มดำเนินการทันที มิฉะนั้นธุรกิจอาจต้องออกจากการแข่งขันทั้งจากคู่แข่งและจากพนักงานที่ทำงานในยุคใหม่ ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียบุคลากรที่มีศักยภาพที่ดีไป”
มาร์ค ดิกสัน
ประธานบริหาร
IWG
ขณะที่โซลูชันระบบอัตโนมัติขั้นสูงและการทำงานร่วมกันช่วยสร้างสถานที่ทำงานที่มีประสิทธิภาพและทันสมัยมากขึ้น การทำงานรูปแบบเดิมกำลังทำให้ธุรกิจประสบปัญหาในการปรับตัวให้ทันกับสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป สถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเหล่านี้ทำให้หลายบริษัทต้องย้อนกลับมาสำรวจองค์กรตัวเองและตระหนักถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอย่างเร่งด่วน ธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปสู่การทำงานที่ทันสมัยและเป็นดิจิทัลจะรับรู้ถึงประโยชน์ของกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพและเป็นอัตโนมัติมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิผลมากขึ้นอีกด้วย
แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่ธุรกิจของคุณก็สามารถพัฒนาและประสบความสำเร็จไปอีกขั้น หากคุณได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ โดยเริ่มต้นจากการปฏิบัติตามแนวทางง่ายๆ ดังต่อไปนี้และพยายามมองหาจุดที่สามารถพัฒนาปรับปรุงได้
สร้างศูนย์กลางสำหรับการทำงานร่วมกัน
ทีมของคุณจะทำงานได้มีประสิทธิภาพที่สุด เมื่อพวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูล แบ่งปันความคิดและไอเดียต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย รวมถึงสามารถจัดประชุมได้อย่างราบรื่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้นั้น บริษัทจำเป็นต้องมีแพลตฟอร์มที่ช่วยสนับสนุนการทำงานร่วมกันอย่าง Microsoft Teams
แพลตฟอร์มนี้ควรครอบคลุมทุกด้านรวบรวมทุกแง่มุมของการทำงานร่วมกันและการสื่อสาร ซึ่งจะช่วยให้พนักงานสามารถ:
- แชร์เอกสาร ภาพถ่าย ไฟล์ PDF และไฟล์อื่นๆ
- ประชุมผ่านทางวิดีโอและแชร์หน้าจอได้
- สนทนาโต้ตอบกันได้ทั้งแบบรายบุคคลและเป็นกลุ่ม
- ประชุมทางโทรศัพท์ได้จากทุกที่
Microsoft Teams เป็นแอปพลิเคชันหนึ่งของ Microsoft 365 ที่มีฟีเจอร์ทั้งหมดนี้ ยังสามารถสรุปรายงานภาพรวมพฤติกรรมการใช้งานของพนักงาน เพื่อให้คุณสามารถผลักดันการมีส่วนร่วมของพนักงานได้
แพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันนี้ควรช่วยให้การทำงานนั้นสะดวกมากยิ่งขึ้นและลดความซับซ้อนให้น้อยลง และเมื่อนำไปใช้งานอย่างถูกวิธี แพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพนี้ก็จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้แอปพลิเคชันสำนักงานใหม่ๆ และก่อนที่คุณจะตัดสินใจใช้แพลตฟอร์มใดๆ ก็ตาม คุณต้องแน่ใจว่าแพลตฟอร์มนั้นๆ มีคุณสมบัติที่ครบถ้วนตามที่ทีมของคุณต้องการ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ปรับปรุงกระบวนการทำงานและการจัดการเอกสารให้ทันสมัย
พนักงานทั้งที่ทำงานจากระยะไกลหรือทำงานในสำนักงานต่างก็ต้องการประหยัดเวลาในการค้นหาเอกสารหรือไฟล์งานต่างๆ การใช้เวลาค้นหาเอกสารที่จัดเก็บในตู้เอกสาร
หรือการสืบค้นข้อมูลจากอีเมลจำนวนมากอาจทำให้เสียเวลานาน หากนำระบบ Automated Workflow และ Digital Document Management ที่ทันสมัยมาปรับใช้ ช่วยให้ทีมของคุณสามารถโฟกัสกับเป้าหมายที่สำคัญกว่าและขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตมากยิ่งขึ้น
โซลูชัน Digital Workflow ที่ใช้งานง่ายอย่าง DocuWare ทำให้ทั้งพนักงานในองค์กร ทีมงานที่ทำงานจากระยะไกล และพาร์ทเนอร์ภายนอกองค์กรสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้ทั้งหมดอย่างปลอดภัยทุกที่ทุกเวลา
DocuWare มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้:
- การดึงข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนีของเอกสาร การจัดการและการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญได้อย่างอัตโนมัติ
- มีทั้งโซลูชันทั้งแบบ Cloud และ On-premise เพื่อความยืดหยุ่นในการใช้งานร่วมกับระบบไอทีอื่นๆ ได้อย่างราบรื่นมาก
- แอปพลิเคชันที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยและเติบโตได้ในอนาคต
- ความสามารถในการขจัดงานแมนนวลและความล่าช้าในการทำงานเอกสาร
- การบันทึกความเคลื่อนไหวของกิจกรรมต่างๆ และรายงานเพื่อรักษาความโปร่งใส
ใช้เครื่องมือในการทำงานร่วมกันของคุณให้เกิดประโยชน์สูงสุด
การปรับปรุงการทำงานร่วมกันภายในทีมของคุณไม่จำเป็นต้องลงทุนกับเทคโนโลยีราคาแพงเสมอไป ด้วยเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันจากริโก้ คุณสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยให้คุณสามารถสแกน แชร์ และบันทึกเอกสารเป็นไฟล์ประเภทต่างๆ เช่น Word, Excel และ PDF ได้
โซลูชัน Smart Integration นี้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกัน โดยจะช่วยให้คุณสามารถค้นหาเอกสารได้อย่างง่ายดายเมื่อคุณต้องการ รวมถึงการแชร์ไฟล์ก็สามารถทำได้ง่ายและปลอดภัย ด้วยทางเลือกที่สามารถปรับแต่งได้และความสามารถที่ส่งข้อมูลผ่านระบบคลาวด์ คุณได้รับประโยชน์จากฟังก์ชันการใช้งานที่มากขึ้นจากอุปกรณ์ที่คุณใช้อยู่แล้ว
โซลูชัน Smart Integration Connector ใช้สำหรับ:
- สแกนและพิมพ์เอกสารจากบัญชีคลาวด์ เช่น Box™, Dropbox™, Google Drive™, OneDrive® for Business, SharePoint® หรือ RICOH Content Manager
- แปลงเอกสารเป็นไฟล์ที่สามารถแก้ไขและค้นหาได้
- พิมพ์เอกสารจากระบบคลาวด์ด้วยแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน
โซลูชัน Smart Integration Workflow ใช้สำหรับ:
- กำหนดเส้นทางการเดินเอกสารแบบอัตโนมัติโดยใช้ QR Code
- กำหนดเส้นทางของไฟล์เอกสารไปยังปลายทางหลายแห่งพร้อมกัน
- สแกนและบันทึกไฟล์ไปยังโฟลเดอร์ (ระบบคลาวด์หรือ On-premise) โดยระบบสามารถตั้งชื่อไฟล์และโฟลเดอร์แบบอัตโนมัติ
โซลูชัน Smart Integration Advanced Workflow ใช้สำหรับ:
- กำหนดเส้นทางการเดินเอกสารไปยังปลายทางแบบอัตโนมัติตามประเภทเอกสาร
- สแกนเอกสารไปจัดเก็บที่โฟลเดอร์บนระบบคลาวด์ โฟลเดอร์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือไลบรารีบน SharePoint Online®
- สแกนเอกสารไปจัดเก็บที่ SharePoint Online® พร้อมบันทึกคำอธิบายชุดข้อมูล (metadata) โดยอัตโนมัติ
สนับสนุนทุกความต้องการของพนักงาน
เมื่อทีมของคุณมีเครื่องมือและทรัพยากรที่จำเป็นต่อการทำงานร่วมกันแล้ว ก็จะส่งผลดีกับทุกฝ่าย แต่คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าธุรกิจของคุณการวางแผนเพื่อให้แน่ใจว่าทีมของคุณมีการสนับสนุนที่จำเป็นในการแก้ปัญหาหรือไม่
แล้วข้อมูลสำคัญบนแพลตฟอร์ม อุปกรณ์ส่วนตัว และเครือข่ายที่ทีมของคุณใช้งานอยู่ มีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด ซึ่งทางออกที่ดีที่สุดคือคุณจะต้องหาโซลูชันที่ให้ทั้งการสนับสนุนและรักษาความปลอดภัย เพื่อสนับสนุนทีมของคุณในการทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในขณะเดียวกันก็ต้องทำให้คุณมั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณปลอดภัย
เพื่อให้คุณมั่นใจยิ่งขึ้น คุณควรที่จะมองหาโซลูชันที่มีคุณสมบัติต่างๆ เช่น:
- บริการที่ช่วยจัดการและตรวจสอบระบบปฏิบัติการและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมง
- บริการจัดการอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อให้มั่นใจว่าทีมของคุณสามารถเข้าถึงข้อมูลขององค์กรได้จากอุปกรณ์ส่วนตัว
- บริการสำรองข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์และปกป้องข้อมูลเพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินได้อย่างราบรื่น
บริษัทที่เข้าใจคุณค่าของการสื่อสารและการทำงานร่วมกันต่างมองหาคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาโซลูชันที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยเฉพาะสถานการณ์ที่ทุกคนทำงานจากต่างสถานที่กัน เครื่องมือที่เหมาะสมจะสามารถเชื่อมโยงผู้คนและข้อมูลเข้าด้วยกันไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม และทำให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างคล่องตัว นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือเหล่านี้ควบคู่ไปกับการสนับสนุนและมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง ทำให้ทีมของคุณติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพร้อมขับเคลื่อนให้ธุรกิจก้าวสู่ความสำเร็จไปอีกขั้น
ที่มา: RICOH USA
News & Events
Keep up to date
- 14พ.ย.
เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน IM C320F จากริโก้คว้ารางวัล Pick Award ประจำปี 2567 จาก Keypoint Intelligence
- 31ต.ค.
ริโก้เผยแพร่เอกสาร Ricoh Group Integrated Report 2024 และ Ricoh Group Environmental Report 2024
- 21ต.ค.
ลงทะเบียนฟรี งานสัมมนาออนไลน์จากริโก้ หัวข้อ “Cyber Transformation & Operations”
- 18ต.ค.
ริโก้เข้าร่วมเป็นสมาชิกสามัญในศูนย์ญี่ปุ่นเพื่อการมีส่วนร่วมและแก้ไขปัญหาทางธุรกิจและสิทธิมนุษยชน