บริการ Expertise-as-a-service ที่ต้องการสถานที่ทำงานแบบ Agile
ปัจจุบันแรงงานในตลาดได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยมีการระบุลักษณะการเปลี่ยนแปลงไว้อย่างชัดเจนตามสื่อต่างๆ โดยเทคโนโลยีที่เป็นตัวผลักดันนั้นไม่ได้ส่งผลแค่รูปแบบการทำงานเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อรูปแบบของหน้าที่ความรับผิดชอบ และทักษะงานที่จำเป็นสำหรับเติมเต็มทีมงานโดยรวมอีกด้วย สิ่งที่สำคัญไม่ได้มีเพียงแค่สถานที่ปฏิบัติงานที่ยืดหยุ่นเท่านั้น ปัจจุบันแรงงานในตลาดได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยมีการระบุลักษณะการเปลี่ยนแปลงไว้อย่างชัดเจนตามสื่อต่างๆ โดยเทคโนโลยีที่เป็นตัวผลักดันนั้นไม่ได้ส่งผลแค่รูปแบบการทำงานเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อรูปแบบของหน้าที่ความรับผิดชอบ และทักษะงานที่จำเป็นสำหรับเติมเต็มทีมงานโดยรวมอีกด้วย สิ่งที่สำคัญไม่ได้มีเพียงแค่สถานที่ปฏิบัติงานที่ยืดหยุ่นเท่านั้น แต่ยังต้องการความคล่องตัวด้วย
กระแสของพนักงานที่มีความยืดหยุ่นและคล่องตัว
มาตรฐานการทำงานของคนในยุคปัจจุบันกำลังเปลี่ยนไป จากตำแหน่งงานที่มีหน้าที่เดียว หรือทำให้กับบริษัทเดียวเป็นเวลานานต่อเนื่องนั้น กำลังจะหายไป และเปลี่ยนมาเป็นการทำงานระยะสั้นกับหลายบริษัท ที่มีลักษณะของงานเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เรียกได้ว่ายุคของ “พนักงานบริษัท” กำลังหมดไป โดยกลายเป็นยุคของ “พนักงานแบบมือปืนรับจ้าง” ในรูปของที่ปรึกษามืออาชีพที่ใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญที่มีอยู่นำเสนอบริการให้แก่ผู้ที่ให้ค่าจ้างมากที่สุด ในระยะเวลาชั่วคราว สำหรับโปรเจกต์งานที่จำเพาะ
จากผลการศึกษาประสิทธิภาพการทำงานในสถานที่ปฏิบัติงานที่เรียกว่า ADAPT 2018 ของ RICOH ครั้งล่าสุดนั้น พบว่าระดับ CIO ในออสเตรเลียกว่า 32% ที่ตอบแบบสอบถาม ระบุว่าทีมงานของตนเองจะอยู่ในรูปของพนักงานแบบสัญญาจ้างหรือ ‘การจ้างแบบยืดหยุ่น&rsquo ภายในปี 2025 ซึ่งสูงขึ้นถึง 23% เมื่อเทียบกับช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเมื่ออิงตามข้อมูลผลการศึกษาของสำนักงานสถิติของออสเตรเลียในปี’ 2016 ที่แสดงให้เห็นว่ามีเพียง 9% ของแรงงานในออสเตรเลียที่อยู่ในรูปพนักงานอิสระเมื่อปี 2015
ยิ่งการที่ผลการศึกษาดังกล่าวไม่ได้แสดงถึงจำนวนพนักงานที่ทำงานประจำเต็มเวลา ยิ่งแสดงให้เห็นว่าพนักงานประจำต่างพยายามมองหาอิสระมากขึ้นจากการทำงานที่ชั่วโมงการทำงานยืดหยุ่น หรือการที่สามารถทำงานจากระยะไกลได้
สถานที่ปฏิบัติงานที่เน้นความคล่องตัว
จากการที่แรงงานจำนวนมากขึ้นพยายามทำให้ตัวเองเป็น “บริการความเชี่ยวชาญในเวลาที่ลูกค้าต้องการ” (Expertise-as-a-Service) หรือต้องการอิสระมากขึ้นนั้น บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องเลือกใช้วิธีที่ปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงได้ดีกว่า คล่องตัวกว่าเดิมในการดำเนินธุรกิจ แค่การเปลี่ยนนโยบายของบริษัทให้เอื้อต่อการเป็น “สถานที่ทำงานที่ยืดหยุ่น” นั้นไม่เพียงพอ อันที่จริง คุณกำลังจะมุ่งสู่หนทางแห่งขวากหนามถ้าไม่สามารถทำให้นโยบายที่เน้นความเป็น “อิสระ” ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงสำคัญทั้งกับกระบวนการทำงาน, ระบบ, และเครื่องมือที่คุณนำมาใช้เพื่อทำงานให้สำเร็จได้
นี่จึงเป็นความแตกต่างระหว่างการทำงานแบบยืดหยุ่น กับการทำงานแบบคล่องตัวหรือ Agile ที่สำคัญที่สุด การทำงานแบบยืดหยุ่นนั้นเป็นเพียงแค่การอนุญาตให้พนักงานทำงานจากสถานที่และเวลาที่ต้องการ แต่การจัดการทำงานแบบเน้นความคล่องตัวจะเป็นการฝังรากลึกลงในทุกสิ่งทุกอย่างที่องค์กรทำ การทำงานที่มีความคล่องตัวจะเป็นการขยายขอบเขตของการจัดการโปรเจกต์แบบคล่องตัว เพื่อนำเอา “ความเร็ว” มาใช้กับการดำเนินธุรกิจในทุกๆ วัน
พื้นฐานของการทำงาน พื้นฐานของการทำงาน และการจัดการโปรเจกต์แบบเน้นความคล่องตัว
หนึ่งในลักษณะสำคัญของสถานที่ทำงานที่มีความคล่องตัว คือการส่งเสริมและผลักดันให้มีการติดต่อประสานงานแบบต่อหน้า แม้ประเด็นนี้จะค่อนข้างสวนทางกับสิ่งที่ทุกคนทำอยู่ โดยเฉพาะเมื่อคุณกำลังปรับเปลี่ยนบริษัทให้พึ่งพาพนักงานที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องทำงานทางกายภาพเดียวกันเลยก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราสามารถนำไปสู่ทั้งความยืดหยุ่นและคล่องตัวได้ไปพร้อมกันเมื่อใช้กระบวนการทำงาน ระบบ และเครื่องมือที่เหมาะสม ด้วยเทคโนโลยีที่ทำให้เชื่อมต่อกันได้ดีขึ้น ให้ได้ทีมงานที่ประสานงานใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อให้ความสำคัญในการนำความเชี่ยวชาญของตัวเองมาใช้ในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพ และได้ศักยภาพมากกว่าเดิม
โดยคุณสามารถพิจารณาปัจจัยสำคัญเพื่อสร้างสถานที่ทำงานที่เน้นความคล่องตัวมากขึ้นดังต่อไปนี้:
แพลตฟอร์มบริการคอนเทนต์: เมื่อพนักงานและผู้เชี่ยวชาญสามารถประสานงานกันจากทุกสถานที่ ก็จำเป็นต้องมีศูนย์กลางเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยทั้งความรู้ต่างๆ ข้อมูล และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ที่ถูกสร้างให้เข้าถึงได้อย่างสะดวกรวดเร็ว การแบ่งหมวดหมู่ แปลงให้อยู่ในรูปดิจิทัล และจัดเก็บข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเข้าถึงได้จากทุกที่ทุกเวลานั้น ถือเป็นบันไดก้าวสำคัญที่นำไปสู่ทีมงานที่เน้นความคล่องตัว และทำงานได้จากระยะไกล ในการพัฒนานวัตกรรมและตัดสินใจงานได้อย่างดี
โซลูชันการสื่อสารที่เชื่อมต่อกัน: โซลูชันการทำงานร่วมกันสำหรับวิดีโอคุณภาพสูงนั้น ทำให้ทีมงานทุกคนร่วมงานกันได้อย่างง่ายบนทุกอุปกรณ์, เครือข่าย, หรือตำแหน่งที่ตั้ง โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยน้อยมาก นอกจากนี้การสื่อสารผ่านวิดีโอคุณภาพสูงนั้น ทำให้การทำงานเป็นทีมที่ประสิทธิภาพมักขึ้นกับความสามารถในการประสานงาน ยิ่งทำงานได้ผลดีมากขึ้นไปอีกผ่านเครื่องมือในการทำงานร่วมกันที่ผสานเข้ากับการประชุมผ่านวิดีโออย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น ระบบกระดานอัจฉริยะที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้จะเข้ามาช่วยทั้งด้านการพัฒนา การทำงานร่วมกัน และการเก็บภาพ แบ่งปันความคิดเห็นของทีมได้แบบเรียลไทม์
กระบวนการทำงาน และกระบวนการแบบอัตโนมัติ: การขจัดอุปสรรคที่ขวางประสิทธิภาพและความสามารถในการทำงานจากระยะไกลนั้นถือว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง คุณสามารถผสานระบบจัดการเอกสารที่แปลงข้อมูลเอกสารและเนื้อหาต่างๆ ให้อยู่ในรูปดิจิทัลและจัดเก็บได้อย่างเป็นระเบียบ พร้อมลงทุนกับโซลูชันซอฟต์แวร์ที่รันโฟลว์การทำงานที่ใช้เวลาทำด้วยตัวพนักงานเองเป็นเวลานานให้เป็นแบบอัตโนมัติ หรือเลือกใช้โซลูชันงานพิมพ์อัจฉริยะ ที่เปิดให้พนักงานสร้างเอกสารของบริษัทขึ้นได้จากทุกที่ ด้วยเป้าหมายในการทำให้พนักงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดภาระงานที่เสียเวลาโดยใช่เหตุ และทำให้สามารถให้ความเห็นหรือจัดการได้ในทันที ไม่ว่าพนักงานจะอยู่ตำแหน่งไหนบนโลกก็ตาม เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้เวลาได้มากขึ้นกับเนื้อหางานที่คุณจ้างเพื่อใช้ความเชี่ยวชาญของพวกเขาโดยเฉพาะ
ถ้าคุณต้องการปรับปรุงสถานที่ปฏิบัติงานให้มีความคล่องตัวอย่างแท้จริง โดยไม่เพียงแค่หยอดคำหวานทำนองว่าทำให้สำนักงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้นแค่นั้นแล้ว คุณจำเป็นต้องถอยหลังหนึ่งก้าว แล้วย้อนวิเคราะห์ดูว่าจะสามารถผลักดัน หรือปรับปรุงการทำงานของคนในบริษัทให้สามารถตอบโจทย์ของคุณเองได้ดียิ่งขึ้นอย่างไร ซึ่งหลักการนี้ใช้ได้กับทั้งพนักงานที่เป็นแบบสัญญาจ้างหรือ Expertise-as-a-Service และพนักงานประจำของบริษัทคุณเอง
News & Events
Keep up to date
- 14พ.ย.
เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน IM C320F จากริโก้คว้ารางวัล Pick Award ประจำปี 2567 จาก Keypoint Intelligence
- 31ต.ค.
ริโก้เผยแพร่เอกสาร Ricoh Group Integrated Report 2024 และ Ricoh Group Environmental Report 2024
- 21ต.ค.
ลงทะเบียนฟรี งานสัมมนาออนไลน์จากริโก้ หัวข้อ “Cyber Transformation & Operations”
- 18ต.ค.
ริโก้เข้าร่วมเป็นสมาชิกสามัญในศูนย์ญี่ปุ่นเพื่อการมีส่วนร่วมและแก้ไขปัญหาทางธุรกิจและสิทธิมนุษยชน