เฮงลิสซิ่ง เพิ่มขีดความสามารถด้านงานพิมพ์เอกสารด้วยเครื่องพิมพ์จาก RICOH

การให้บริการสินเชื่อในปัจจุบัน นอกจากจะเป็นการกู้ยืมจากทางธนาคารทั้งรัฐและเอกชนทั่วไปแล้ว สถาบันการเงินแบบที่เรียกว่า Non-Bank นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจและประชาชนทั่วไปก็สามารถเข้าถึงได้ง่าย สำหรับ บริษัท เฮงลิสซิ่ง จำกัด เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า โดยมีวิสัยทัศน์ที่สำคัญคือ “ผู้ให้บริการทางการเงินที่นิยมชมชอบของลูกค้าในแต่ละท้องถิ่น” 

คุณพีระวิทย์ อนันตเศรษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายโซลูชันของ บริษัท เฮงลิสซิ่ง จำกัด ได้อธิบายถึงสิ่งที่ทำให้ บริษัท เฮงลิสซิ่ง จำกัด นั้นแตกต่างจากสถาบันการเงินอื่นๆ ว่า ลูกค้าของพวกเขาสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายกว่าที่อื่น อีกทั้งองค์กรมีบุคลากรจำนวนมากที่คอยดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด คอยช่วยเหลือและให้คำปรึกษาลูกค้าอย่างจริงใจ ทำให้เป็นที่นิยมของลูกค้าในการมาขอรับบริการสินเชื่อ อาจจะกล่าวได้ว่า บริษัท เฮงลิสซิ่งเปรียบเสมือน “เพื่อนคู่คิดทางการเงิน” ให้กับลูกค้าก็ว่าได้

ในการดำเนินงานของ บริษัท เฮงลิสซิ่ง จำกัด ถือได้ว่าเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเปิดให้บริการในช่วงมกราคมปี 2559 จนถึงปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 290 สาขา ครอบคลุมพื้นที่เขตภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันตก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือณ ปัจจุบันยังมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าเช่าซื้อรถยนต์มือสองและสินเชื่อเงินกู้ เป็นต้น ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วและสาขามีจำนวนมาก ทำให้เอกสารและงานพิมพ์ต่างๆ เพิ่มเป็นเงาตามตัว บริษัท เฮงลิสซิ่ง จึงจำเป็นต้องหาโซลูชันเข้ามาช่วยบริหารจัดการ

ผู้อำนวยการฝ่ายโซลูชันกล่าวว่า ทางบริษัทได้เริ่มบริหารจัดการเอกสารจำนวนมากโดยแบ่งออกเป็นส่วนงานภายในและภายนอก โดยส่วนงานภายในจะใช้การจัดเก็บแบบดิจิทัลเป็นหลัก ส่วนงานเอกสารภายนอก เช่น สัญญาของลูกค้าก็จะใช้วิธีจัดเก็บเป็นกระดาษในตู้เอกสาร และจัดทำดัชนีในการจัดเก็บ นอกจากนั้นแล้วยังรวมไปถึงใบแจ้งหนี้สำหรับลูกค้า ที่ทางบริษัท เฮงลิสซิ่ง เป็นผู้จัดพิมพ์เองโดยไม่ได้จ้างพิมพ์จากภายนอกแต่อย่างใด

อัพเกรดระบบการพิมพ์เพื่อรองรับการขยายตัว

บริษัท เฮงลิสซิ่ง ได้เริ่มหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ของ RICOH ตั้งแต่เริ่มต้น โดยมีการใช้เครื่องมัลติฟังก์ชันสีแบบทั่วไป แต่เนื่องจากการเติบโตของบริษัทและการขยายตัวของสาขาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นหลายเท่า ทำให้จำเป็นต้องขยายระบบการพิมพ์จากเครื่องมัลติฟังก์ชันสีแบบธรรมดาไปเป็นระบบเครื่องพิมพ์ Production Printing ของ RICOH จำนวน 2 เครื่อง รุ่น Pro 8200S และ Pro 8210S เพื่อรองรับงานพิมพ์ที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก
คุณพีระวิทย์ กล่าวว่าตั้งแต่หันมาใช้เครื่องพิมพ์ Production Printing ทั้งสองรุ่นดังกล่าว ทำให้เขาหมดกังวลใจในหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของประสิทธิภาพในการพิมพ์ที่มีความละเอียดและชัดเจน ความเร็วในการพิมพ์ที่ทำได้อย่างรวดเร็วมาก ช่วยประหยัดเวลาการพิมพ์ใบเอกสารแจ้งหนี้/ใบเสร็จรับเงินที่ต้องใช้เวลานานเป็นวัน เหลือเพียงแค่หลักชั่วโมงเท่านั้น (เนื่องจากเครื่องพิมพ์ของ RICOH ทำความเร็วสูงถึง 96 แผ่นต่อนาที ในรุ่น Pro 8200S และ 111 แผ่นต่อนาที ในรุ่น Pro 8210S) ทำให้บริษัท เฮงลิสซิ่ง ประทับใจกับงานพิมพ์ดังกล่าว และช่วยให้ลูกค้าของบริษัท เฮงลิสซิ่ง ได้รับใบเสร็จรับเงินได้รวดเร็วขึ้นด้วยเช่นกัน

คุ้มค่าและตอบโจทย์ในงานพิมพ์

บริษัท เฮงลิสซิ่ง ได้ใช้งานเครื่องพิมพ์ Production Printing มาเป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปี โดยที่ผ่านมานั้นไม่พบปัญหาต่อการใช้งานแต่อย่างใด ช่วยตอบสนองความต้องการด้านงานพิมพ์ได้อย่างรวดเร็ว สำหรับความชัดเจนของงานพิมพ์ก็ทำได้ดี รวมถึงเรื่องของการบริการที่ได้รับจาก RICOH อยู่ในเกณฑ์ที่ดี และมีลักษณะการทำงานแบบเชิงรุก (Pro-active) กล่าวคือ ทีมงานของ RICOH จะพร้อมให้บริการลูกค้าอยู่เสมอ อีกทั้งยังคอยให้คำปรึกษาต่างๆ เกี่ยวกับเครื่องพิมพ์และงานพิมพ์ สิ่งต่างๆ เหล่านี้สร้างความประทับใจให้กับบริษัท เฮงลิสซิ่งเป็นอย่างมาก ถือได้ว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง