Hyper Converged เทคโนโลยีตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่
ปฏิเสธไม่ได้ว่า องค์กรธุรกิจในยุคปัจจุบันจำเป็นต้องใช้งานระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย ต้องมีระบบและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น Network , Server และ Storage เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
คุณเมธา ดีชัย Lead Data Center Group บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในอดีต เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานในองค์กรจะเป็นระบบเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นตัวเดียว ซึ่งสามารถซื้อฮาร์ดแวร์แล้วลง OS จากนั้นลงแอปพลิเคชันที่ต้องการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเมลเซิร์ฟเวอร์หรือระบบ Storage ปัญหาจะไม่เกิดขึ้น หากองค์กรนั้นมีขนาดไม่ใหญ่มากหรือเป็นองค์กรขนาดเล็กที่ไม่มีความซับซ้อนมากนัก
แต่เมื่อนานวันเข้า ธุรกิจเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นจนต้องขยายเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งอาจจะดูเหมือนง่าย เพียงแค่การขยายสเกลไปเรื่อยๆ แต่เรื่องที่ยากคือ การย้ายข้อมูลจากระบบเก่าไปใหม่ ต้องมานั่งลุ้นว่าข้อมูลจะมาครบหรือไม่ แอปพลิเคชันตัวเก่าจะสามารถทำงานเข้ากับระบบใหม่ได้หรือไม่ นี่คือสิ่งที่สร้างปัญหาให้กับองค์กรที่ผ่านมา ทำให้มีการคิดค้น Hyper Converged Infrastructure หรือ HCI เข้ามาเพื่อช่วยแก้ปัญหา
โดย HCI จะมี SDI หรือ Software-Defined Infrastructure ที่จะรวมเซิร์ฟเวอร์ทุกตัวให้ทำงานสอดประสานกันเสมือนเป็นเซิร์ฟเวอร์ตัวเดียวกัน ซึ่งจะดึงประสิทธิภาพการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดออกมา มีความยืดหยุ่นในการขยายเซิร์ฟเวอร์ และหมดกังวลเรื่องระบบล่ม เพราะเซิร์ฟเวอร์ในเครือข่ายทุกตัวสามารถทำงานแทนกันได้ตลอดเวลา
ในส่วนของ Lenovo นั้นมีระบบ HCI ที่ออกแบบมาตามความต้องการของลูกค้า โดยมีชื่อว่า ThinkAgile ซึ่งแยกโซลูชันออกเป็น 3 แบบ โดย Lenovo ได้พัฒนาร่วมกับพาร์ทเนอร์ เช่น ThinkAgile HX ที่พัฒนาร่วมกับ Nutanix, ThinkAgile VX Series ที่พัฒนาร่วมกับ Vmware และ ThinkAgile MX ที่พัฒนาร่วมกับ Microsoft
จุดเด่นของ HCI คือเรื่องต้นทุนรวมที่ถูกกว่า โดยที่ผ่านมานั้น เมื่อจะทำระบบ Server Storage ไม่ว่าจะเป็น NAS, DAS และ SAN ต้องอาศัยตัวบริหารจัดการ Storage ที่มีราคาแพง แต่ Hyper Converged นั้นจะใช้ซอฟต์แวร์ในการเชื่อมต่อ Storage แต่ละตัวให้เข้าถึงกัน ทำให้มีราคาที่ถูกกว่า
คุณเมธาเล่าต่อว่า ในส่วนของ Lenovo นั้นเป็นผู้ให้บริการฮาร์ดแวร์เพื่อให้ลูกค้านำไปสร้างระบบ HCI ของตัวเอง อย่าง Thinksystem ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องประสิทธิภาพที่ได้รับรางวัล Benchmark จากหน่วยงานกลางระดับโลก และเป็นรายแรกๆ ของ HCI ที่ได้รับการสนับสนุนจาก SAP Solution ซึ่งหากลูกค้าเลือกใช้ฮาร์ดแวร์จาก Lenovo ก็สามารถมั่นใจในประสิทธิภาพและความคุ้มค่าที่จะได้รับ
กลุ่มลูกค้าที่เหมาะกับ HCI
คุณเมธาเล่าว่า HCI นั้นเหมาะกับทุกองค์กรธุรกิจ แต่อยู่ที่ว่าจะเอาไปประยุกต์ใช้ในลักษณะใด ตัวอย่างของลูกค้าของ Lenovo มีการใช้ในลักษณะทำไว้เพื่อทดสอบซอฟต์แวร์ หรือเอาไปประยุกต์ใช้เพื่อทำเพื่อ Remote Office เพราะมีรูปแบบการใช้งานที่ง่ายกว่าเซิร์ฟเวอร์แบบเดิมๆ (Traditional Server)
คำแนะนำสำหรับองค์กรที่จะเริ่มใช้ HCI
คุณเมธาแนะนำว่า องค์กรต้องทราบก่อนว่าจะนำ HCI มาใช้งานในด้านไหน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะได้ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และฝ่ายไอทีต้องศึกษาว่า ระบบ HCI จะสามารถเข้ากับระบบเดิมได้มากน้อยเพียงใด
ในส่วนของ Lenovo นั้นจะเข้าไปรับฟังปัญหาของลูกค้าและให้คำปรึกษา เมื่อลูกค้าตัดสินใจที่จะลงทุน จะมีการทำ POC หรือ Proof Of Concept ให้กับลูกค้า ซึ่งหมายถึงการทดสอบการใช้โปรแกรม หรือระบบคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบว่า ระบบหรือโปรแกรมนั้นๆ สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องหรือไม่
และสิ่งสุดท้ายที่คุณเมธาอยากให้คำแนะนำคือ ปัจจุัน HCI กำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรง หากใครต้องการจะลงทุนในระบบเซิร์ฟเวอร์ใหม่ HCI คือ ตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้มากที่สุด เพราะสามารถรองรับการใช้งานในระยะยาว มีต้นทุนรวมที่ถูกกว่า และสามารถลดปัญหาความไม่เข้ากันของระบบได้อย่างมาก
ในการก้าวต่อไปในโลกแห่งเทคโนโลยี Lenovo และริโก้ต่างมีจุดหมายร่วมกันในการเตรียมความพร้อมให้องค์กรของลูกค้าสามารถรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และเสริมสร้างประสิทธิภาพการปฏิบัติงานให้กับองค์กรของลูกค้า