ริโก้เปิดตัว “คู่มือเทคโนโลยีการพิมพ์สำหรับธุรกิจ” บทวิเคราะห์อิงข้อมูลว่าด้วยบทบาทของงานพิมพ์ในที่ทำงานยุคใหม่
รายงานฉบับใหม่นำเสนอผลการวิจัยอิสระเกี่ยวกับประสิทธิภาพการพิมพ์ ความยั่งยืน และความปลอดภัย เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เทคโนโลยีในที่ทำงานให้กับธุรกิจ
โตเกียว วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 – ริโก้เอเชียแปซิฟิกเปิดตัว "คู่มือเทคโนโลยีการพิมพ์สำหรับธุรกิจ" เอกสาร Whitepaper ฉบับสมบูรณ์ที่อ้างอิงจากผลการทดสอบอิสระ โดยเปรียบเทียบเทคโนโลยีการพิมพ์เลเซอร์และอิงค์เจ็ทในการใช้งานจริง
รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นภายใต้ความร่วมมือกับ DataMaster Labs บริษัทวิจัยอิสระชั้นนำที่เชี่ยวชาญด้านการประเมินเทคโนโลยีการพิมพ์ในห้องปฏิบัติการ นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับผลของเทคโนโลยีการพิมพ์ต่อประสิทธิภาพการทำงาน ต้นทุนการใช้งาน และความยั่งยืน โดยมีหลักฐานรองรับชัดเจน
ในขณะที่องค์กรต่าง ๆ เริ่มปรับกระบวนการทำงานให้เข้าสู่ระบบดิจิทัล รวมถึงนำรูปแบบการทำงานแบบไฮบริดมาใช้มากขึ้น งานพิมพ์ยังคงเป็นองค์ประกอบสำคัญของการจัดการข้อมูล ความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการทำงาน โดยเอกสาร Whitepaper ฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อช่วยให้ธุรกิจมีข้อมูลที่ครบถ้วนและสามารถตัดสินใจเลือกเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างรอบคอบ
"ในยุคที่ธุรกิจมีการทำงานแบบไฮบริดและการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลมากขึ้น ธุรกิจต้องการโซลูชันการพิมพ์ที่สามารถเชื่อมโยงกระบวนการทำงานต่าง ๆ เข้าด้วยกันได้อย่างราบรื่น และไม่สร้างอุปสรรคจนเกิดความล่าช้า" คุณสตีเวน เบอร์เกอร์ รองประธานศูนย์เทคโนโลยีริโก้ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกกล่าว "เอกสาร Whitepaper ฉบับนี้นำเสนอข้อมูลที่เป็นกลาง เพื่อให้ภาคธุรกิจรู้เท่าทันคำโฆษณาชวนเชื่อที่หวังผลทางการตลาด และปรับกลยุทธ์การพิมพ์ให้มีประสิทธิภาพ”
ข้อมูลสำคัญที่เราค้นพบจาก Whitepaper:
- ประสิทธิภาพที่แตกต่างกันระหว่างเลเซอร์กับอิงค์เจ็ท - ในสภาพแวดล้อมการใช้งานในปริมาณมาก เครื่องพิมพ์เลเซอร์สามารถคงระดับความเร็วในการพิมพ์ไว้ได้ถึง 97% ของพิกัดความเร็วเดิม ในขณะที่ เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทจะทำงานได้ช้าลงถึง 141% เมื่อต้องพิมพ์งานที่ซับซ้อน
- คุณภาพงานพิมพ์และผลลัพธ์ต่อธุรกิจ - การทดสอบอิสระให้คะแนนคุณภาพงานพิมพ์เลเซอร์ที่ 91/100 เทียบกับอิงค์เจ็ทที่ 76/100 โดยเฉพาะในด้านความคมชัดของตัวอักษรและความสม่ำเสมอของสี
- ความยั่งยืนและการประหยัดต้นทุน - เครื่องพิมพ์เลเซอร์ของริโก้ใช้พลังงานเพียง 0.32 วัตต์ในโหมดสแตนด์บาย ซึ่งคิดเป็นหนึ่งในสามของเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ เอกสารที่พิมพ์ด้วยผงหมึกสามารถนำไปรีไซเคิลได้ง่ายกว่า จึงลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้มากกว่า
- ความปลอดภัยและการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีต่าง ๆ - ผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบเลเซอร์สามารถทำงานร่วมกับระบบรักษาความปลอดภัยระดับองค์กรและกระบวนการทำงานในระบบดิจิทัลได้ดีกว่า ซึ่งช่วยลดปัญหาคอขวดและลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล โดยเฉพาะในบริบทของการใช้งานในปริมาณมากได้
สิ่งที่เราได้จากคู่มือเทคโนโลยีการพิมพ์สำหรับธุรกิจฉบับนี้ สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของริโก้ที่มองว่างานพิมพ์เป็นปัจจัยสำคัญในการพลิกโฉมสภาพแวดล้อมการทำงาน ซึ่งจะมีการหยิบยกประเด็นเหล่านี้ขึ้นมาอภิปรายเพิ่มเติมในงาน SPARK งานประชุมผู้นำประจำปีรูปแบบใหม่ของริโก้ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศไทย โดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจะมาร่วมกันอภิปรายถึงบทบาทของโซลูชันการทำงานแบบไฮบริด ระบบอัตโนมัติสำหรับกระบวนการทำงาน ระบบคลาวด์และไอที การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการจัดการงานพิมพ์ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่เอื้ออำนวยให้เกิดสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีความอัจฉริยะ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางของการทำงานในอนาคต
"องค์กรที่เข้าใจว่างานพิมพ์เป็นส่วนหนึ่งของระบบการจัดการและเผยแพร่ข้อมูล (information ecosystem) และไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือที่ตั้งอยู่เดี่ยว ๆ จะสามารถพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน ยกระดับความปลอดภัย และบรรลุเป้าหมายความสำเร็จในระยะยาวได้" คุณสตีเวน เบอร์เกอร์กล่าวเสริม “ริโก้ช่วยให้ธุรกิจสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ชาญฉลาดและเชื่อมโยงถึงกันมากขึ้น ด้วยการทำให้ข้อมูลสามารถไหลเวียนระหว่างกระบวนการทำงานทั้งในรูปแบบดั้งเดิมและดิจิทัลได้อย่างราบรื่น เพื่อให้ข้อมูลถูกส่งต่อได้อย่างอิสระและปลอดภัย”
ดาวน์โหลด Whitepaper
สามารถดาวน์โหลด "คู่มือเทคโนโลยีการพิมพ์สำหรับธุรกิจ" ได้แล้ววันนี้ที่ คู่มือเทคโนโลยีการพิมพ์สำหรับธุรกิจ
News & Events
Keep up to date
- 13ก.พ.
ริโก้เปิดตัว “คู่มือเทคโนโลยีการพิมพ์สำหรับธุรกิจ” บทวิเคราะห์อิงข้อมูลว่าด้วยบทบาทของงานพิมพ์ในที่ทำงานยุคใหม่
- 10ก.พ.
Ricoh recognized by Gartner® in its first 2024 Magic Quadrant™ for Document Management
- 23ม.ค.
ริโก้ได้รับการจัดอันดับเป็นบริษัทชั้นนำในกลุ่มการผลิตคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เสริม และยังได้รับตำแหน่งที่ 51 ในการจัดอันดับ 100 บริษัทที่ยั่งยืนที่สุดในโลกประจำปี 2025
- 16ม.ค.
ริโก้ได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้นำในรายงาน IDC MarketScape ปี 2024 สำหรับบริการการจัดการงานพิมพ์และเอกสารบนคลาวด์ทั่วโลก (Worldwide Cloud Managed Print and Document Services Hardcopy)