2021 จุดเปลี่ยนสำหรับความต่อเนื่องทางธุรกิจและการวางแผนการกู้คืนจากภัยพิบัติ

28 ก.ย. 2564

ความจริงก็คือมีเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้นที่แผนความต่อเนื่องทางธุรกิจและแผนการฟื้นฟูจากภัยพิบัตินั้นมีเรื่องการรับมือกับโรคระบาดรวมอยู่ด้วย

โรคระบาดไม่ได้ส่งผลกระทบต่อข้อมูลหรือความพร้อมใช้งานของระบบที่ Disaster Recovery (DR) มักจะโฟกัส แต่มันขัดขวางโลกของธุรกิจอย่างมหาศาล

ดังนั้นบริษัทจึงต้องหาวิถีทางทำให้พนักงานสามารถทำงานทางไกลได้ ในขณะที่ออฟฟิศยังคงเปิดอยู่ตามปกติ วิธีการในการทำงานร่วมกันและการแบ่งปันข้อมูลแบบใหม่นั้นจำเป็นต้องมีการเตรียมการ ตั้งแต่ระดับบนจนถึงระดับล่างนั่นทำให้บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องพิจารณาระบบของพวกเขาอย่างจริงจัง และสำหรับบริษัทส่วนใหญ่แล้วแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจและแผนการฟื้นฟูจากภัยพิบัติของพวกเขานั้นกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง

ในขณะที่หลายๆ บริษัทได้ล้มเลิกเทคโนโลยี DR อีกหลายบริษัทก็ตระหนักว่าโปรแกรม DR ของพวกเขานั้นไม่สามารถตามทันความต้องการและความเสี่ยงของโลกธุรกิจดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยคลาวด์ 24/7/365 ได้ บรรดาธุรกิจต่างๆ ยังตระหนักด้วยว่าแม้ว่าพวกเขาจะฝ่าฟันพายุโควิดไปได้ แต่พวกเขาอาจมีการเตรียมการจัดการกับเหตุการณ์ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นความล้มเหลวของเทคโนโลยี ภัยธรรมชาติ แรนซัมแวร์ หรือข้อผิดพลาดทั่วไปของผู้ใช้น้อยกว่าที่พวกเขาคิด

ภัยคุกคามจากดาวน์ไทม์เพิ่มมากขึ้นและคิดเป็นมูลค่าที่สูงขึ้น

แม้แต่ช่วงก่อนเกิดการระบาดใหญ่ ระบบนิเวศทางธุรกิจแบบดิจิทัลของบริษัทต่างๆ ส่วนใหญ่ก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว พวกเขาได้เห็นแอปพลิเคชันมากขึ้น เครือข่ายที่กว้างขึ้น และข้อมูลเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณทุกปี

ปัจจุบันระบบนิเวศทางธุรกิจทั่วไปได้เพิ่มแอปพลิเคชันและระบบที่โฮสต์บนคลาวด์ทั้งแบบสาธารณะ ส่วนตัว และแบบไฮบริด ข้อมูลนั้นมีอยู่ทุกที่ ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ท้าทายต่อการสร้างโปรแกรม DR ที่ครอบคลุมถึงการจัดการและปกป้องทรัพย์สินดิจิทัลเหล่านี้ ผลก็คือ ดาวน์ไทม์ที่เพิ่มมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา

  • 7 ใน 10 บริษัทเคยพบกับการเกิดดาวน์ไทม์ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา
  • 96% เคยเผชิญกับระบบสัญญาณขาดหายในช่วงสามปีที่ผ่านมา

ในขณะเดียวกันนั้นมูลค่าของดาวน์ไทม์ก็ยังคงเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งตัวเลขก็เป็นที่น่าตกใจมาก ช่วงดาวน์ไทม์หนึ่งชั่วโมงนั้นสามารถคิดเป็นมูลค่าถึง $25,000 เหรียญสหรัฐสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่นั้นมีมูลค่าสูงถึง $540,000 เหรียญสหรัฐ

ความเสียหายเหล่านั้นแทบจะไม่สามารถทดแทนได้ด้วย “Pent-up Demand” เมื่อระบบต่างๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เหตุผลก็คือเนื่องจาก “สินค้า” หลักที่ผลิตโดยบริษัทจำนวนมากในปัจจุบันนั้นก็คือความเชี่ยวชาญและบริการที่เชื่อถือได้ ซึ่งเราไม่สามารถเรียกคืนสินค้าที่จับต้องไม่ได้เหล่านี้ ดาวน์ไทม์ที่เพิ่มขึ้นหมายถึงการสูญเสียถาวร

หลายๆ ธุรกิจรู้ตัวว่าพวกเขาต้องการโซลูชัน DR ที่ดีกว่านี้

แม้ว่าจะมีตัวเลขทางสถิติแสดงให้เห็น แต่ความจริงก็คือธุรกิจส่วนใหญ่รู้ดีว่าพวกเขายังไม่มีแผนการฟื้นฟูจากการเกิดดาวน์ไทม์ที่รวดเร็วและได้ประสิทธิภาพ สามจากห้าบริษัทยอมรับว่าพวกเขาไม่มั่นใจในความสามารถที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ระดับการบริการในกรณีที่เกิดการหยุดชะงักครั้งใหญ่ บรรดาธุรกิจยังทราบดีว่าความท้าทายในเรื่อง DR นั้นจะไม่ง่ายขึ้นแน่ๆ โดย 84% รู้ดีว่าโซลูชัน DR ปัจจุบันของพวกเขาจะไม่ตอบสนองความท้าทายทางธุรกิจในอนาคตของพวกเขา

DR มีความสำคัญยิ่งขึ้นหลังโรคระบาด

สถิติข้างต้นนั้นถูกรายงานตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020 ณ จุดนั้น ตัวเลขเหล่านั้นพิสูจน์ให้เห็นถึงความกังวล

หากจะพูดว่า “สิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลงไป” นั้นก็ยังน้อยเกินไป โลกของการทำงานนั้นเกิดวิวัฒนาการอย่างมากในปีที่ผ่านมา โดยหลายคนเปลี่ยนไปทำงานทางไกลและยืดหยุ่นได้ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ธุรกิจต้องพึ่งพาการเข้าถึงแอปพลิเคชัน Cloud-Hosted อย่างต่อเนื่องของพนักงานจากระยะไกล ดังนั้นแล้วธุรกิจจำเป็นต้องจัดการระบบนิเวศดิจิทัลขนาดใหญ่ที่มีการกระจายอำนาจและเป็นระบบที่มี "จุดล้มเหลว" ที่อาจเกิดขึ้นได้มากกว่าปีที่แล้ว

โรคระบาดเผยให้เห็นว่า DR นั้นไม่ใช่แค่เข้ามาทำให้มั่นใจว่าคนจะเข้าถึงระบบ แต่ยังทำให้มั่นใจว่าบริษัทนั้นสามารถเข้าถึงบุคลากรของเขาด้วย พูดอีกอย่างก็คือหากพนักงานของคุณทำงานระยะไกลและระบบเน็ตเวิร์กของคุณล่ม พนักงานไอทีจะดำเนินการแผน DR ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งได้อย่างไร และหากว่าพนักงานไอทีของคุณป่วยและไม่สามารถทำงานได้ คุณมีแผนรับมือสำหรับแผนรับมือนั้นอีกทีหนึ่งหรือไม่

2021 คือจุดเปลี่ยนของ DR

เหตุการณ์ในปีที่ผ่านมาได้สร้างจุดที่ต้องพิจารณาสำหรับความต่อเนื่องทางธุรกิจและการวางแผนการกู้คืนระบบในโลกธุรกิจ การเพิ่มความเสี่ยงต่อความต่อเนื่องทางธุรกิจนั้นจะส่งผลต่อต้นทุนของการเกิดดาวน์ไทม์ในช่วงเวลาที่มีความคาดหวังที่สูงขึ้นสำหรับการบริการอย่างต่อเนื่อง

ธุรกิจที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ และบริการ DR ที่มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นจะอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เพียงแต่จะอยู่รอดเท่านั้น แต่ยังจะเติบโตในโลกที่มีความซับซ้อนและความไม่แน่นอนมากขึ้นอีกด้วย

โชคดีที่ปัจจัยที่ขับเคลื่อนการคาดการณ์ข้างต้นนี้ได้นำมาสู่เทคโนโลยี DR แบบ As-a-service ที่ขับเคลื่อนด้วยคลาวด์ที่ทรงพลัง บริการโซลูชัน Disaster Recover as a Service (DRaaS) เหล่านี้ทำให้ DR เหมาะสมกับความต้องการของโลกธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยคลาวด์ที่ใช้งานตลอดเวลาในโลกธุรกิจ

ดังเช่นที่ Bloomberg ได้สรุปไว้ในรายงานฉบับล่าสุดเกี่ยวกับ DRaaS ว่า “การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและการยอมรับเทคโนโลยีคลาวด์ในช่วงการระบาดใหญ่ รวมกับการปรับปรุงความสามารถในการจัดการซึ่งเป็นคุณลักษณะหลักของโมเดล DR 'as a service' ในปี 2021 นับเป็นช่วงที่สมบูรณ์แบบสำหรับหลายบริษัทที่จะก้าวไปข้างหน้า”

 

ที่มา : https://www.ricoh-usa.com/en/insights/articles/improving-business-continuity-and-disaster-recovery-planning