เชื่อมโยงผู้คนและระบบเข้าด้วยกัน เพื่อประสานการทำงานด้านสาธารณสุข
เมื่อผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขพิจารณาถึงการทำงานร่วมกัน (interoperability) พวกเขาจะนึกถึงสภาพแวดล้อมที่มีการประสานงานร่วมกันของระบบและอุปกรณ์ทั้งหมดที่ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ อย่างไรก็ตามเมื่อพูดถึงการเชื่อมต่อ (connectivity) แล้ว เป้าหมายสุดท้ายที่แท้จริงคืออะไร?
จากการศึกษาล่าสุดร่วมกับ HealthLeaders พวกเราได้สอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขชั้นนำเกี่ยวกับความคาดหวังของพวกเขาต่อการทำงานร่วมกันในองค์กร และพบว่าร้อยละ 81 ของผู้ตอบแบบสอบถาม ให้คำตอบโดยมุ่งเน้นไปที่เรื่องการสื่อสารที่ดีขึ้น ผู้นำด้านสาธารณสุขตระหนักดีว่าการทำงานร่วมกันไม่ใช่แค่เรื่องการเชื่อมต่อระบบ – แต่คือการเชื่อมต่อผู้คนด้วย
ในขณะที่องค์กรต่างๆ มุ่งเน้นไปที่การเชื่อมต่อระบบและอุปกรณ์ สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือการมีบุคคลและกระบวนการทำงานที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างแท้จริง โดยวิธีการหลักที่ผู้ให้บริการสามารถรวมผู้คนเข้าด้วยกันเพื่อสร้างประสบการณ์การดูแลที่เชื่อมโยงมากขึ้นมีดังต่อไปนี้
- เปลี่ยนเอกสารและการแฟกซ์ให้เป็นดิจิทัลเพื่อสร้างกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพสำหรับแพทย์: การจัดการเอกสารที่พิมพ์ออกมายังคงมีบทบาทในองค์กรสาธารณสุขสมัยใหม่ ในโลกดิจิทัลปัจจุบันเอกสารกระดาษยังคงเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการทำงานบางประการ อย่างไรก็ตามองค์กรสามารถช่วยลดการสูญหายของเอกสารกระดาษและสนับสนุนให้ผู้ใช้ส่งแฟกซ์ได้โดยการทำคิวแฟกซ์ให้เป็นดิจิทัล — เช่น คิวคำสั่งซื้อทางอิเล็กทรอนิกส์ของร้านขายยาหรือห้องแลป ผู้ใช้ยังสามารถติดแท็กแฟกซ์เพื่อให้สามารถจับคู่กับบันทึกผู้ป่วยทางอิเล็กทรอนิกส์ได้
- ทำงานร่วมกันทางไกลด้วยกระดานอัจฉริยะ Interactive Whiteboard: กระดานอัจฉริยะช่วยให้แพทย์สามารถเชื่อมต่อกันในรูปแบบที่มากกว่าการโทรศัพท์ อีเมล หรือแฟกซ์ เมื่อพูดคุยเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วย เครื่องมือการทำงานร่วมกันเหล่านี้ช่วยให้การประสานงานด้านการดูแลรักษาภายในโรงพยาบาลและระหว่างสถานพยาบาลที่เกี่ยวข้องดียิ่งขึ้น เอกสารที่สร้างขึ้นจากกระดานอัจฉริยะสามารถแปลงเป็นไฟล์ PDF และเพิ่มเข้าไปในระบบบันทึกสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EHR) ได้อย่างง่ายดายเพื่อใช้สำหรับอ้างอิงและใช้งานในอนาคต
- ลดการกรอกข้อมูลแบบแมนนวล: โดยทั่วไปผู้ป่วยจะกรอกแบบฟอร์มการลงทะเบียนบนกระดาษ และความรับผิดชอบในการป้อนข้อมูลที่รวบรวมได้จะตกอยู่กับเจ้าหน้าที่ เมื่อผู้ป่วยลืมข้อมูลการเรียกเก็บเงินที่สำคัญ เจ้าหน้าที่อาจไม่เห็นข้อผิดพลาดจนกว่าการพบปะกับผู้ป่วยจะเสร็จสิ้น — ซึ่งอาจเสี่ยงต่อรายได้ เมื่อข้อมูลทางการเงินถูกแนบกับบันทึกสุขภาพของผู้ป่วย ข้อมูลสามารถถูกกรอกโดยอัตโนมัติด้วยแบบฟอร์มอัจฉริยะและตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์สามารถมุ่งเน้นเวลาของตนไปยังกิจกรรมที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานหรือกิจกรรมที่ให้คุณค่าแก่ผู้ป่วยมากขึ้นได้
การสร้างสภาพแวดล้อมที่มีการทำงานร่วมกันและสามารถทำงานร่วมกันได้มากขึ้น ช่วยให้ผู้นำด้านสาธารณสุขสามารถมอบการดูแลที่ดีกว่าให้กับผู้ป่วย ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดต้นทุนลงได้
ที่มา: RICOH USA
News & Events
Keep up to date
- 09ธ.ค.
ลงทะเบียนฟรี งานสัมมนาออนไลน์จากริโก้ Beyond the Limits: Cloud-Powered Security, Networks, and Data Analytics
- 06ธ.ค.
ริโก้ประเทศไทยได้รับโล่ผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองเครื่องหมายฉลากเขียวของผลิตภัณฑ์เครื่องถ่ายเอกสารต่อเนื่องมากกว่า 20 ปี พร้อมเกียรติบัตรผู้ได้รับการรับรองฉลากเขียวประจำปี จากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI)
- 04ธ.ค.
ริโก้ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน "นายจ้างยอดเยี่ยมแห่งเอเชียแปซิฟิก ประจำปี 2025" โดย Financial Times
- 14พ.ย.
เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน IM C320F จากริโก้คว้ารางวัล Pick Award ประจำปี 2567 จาก Keypoint Intelligence