โซลูชันจัดการสีที่ตอบโจทย์ทุกระดับผู้ใช้งาน สู่ความแม่นยำระดับมืออาชีพ

16 ธ.ค. 2567

ในการสัมภาษณ์ล่าสุด โทบี ซาลเฟลด์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการด้านสีและฝ่ายการสื่อสารด้วยกราฟฟิกที่ Ricoh สหรัฐอเมริกา ได้พูดถึงความท้าทายในการจัดการสีที่ผู้ให้บริการการพิมพ์จำนวนมากต้องเผชิญ และได้นำเสนอโซลูชันที่จะเข้ามาปฏิวัติวงการอย่างโซลูชัน RICOH Auto Color Adjuster ด้วยประสบการณ์อันยาวนานของเขา โทบี เข้าใจถึงความซับซ้อนของการได้มาซึ่งสีที่แม่นยำและสม่ำเสมอในอุปกรณ์และวัสดุการพิมพ์หลากหลายประเภท เขาเน้นย้ำถึงความยากลำบากในการตอบสนองความต้องการสีเฉพาะเจาะจงของลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ที่มีหลักเกณฑ์เข้มงวด เช่น สีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Coca-Cola ความแม่นยำและความสม่ำเสมอของสีมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออัตลักษณ์ของแบรนด์ ความพึงพอใจของลูกค้า และความสำเร็จทางธุรกิจ

การบรรลุสีที่สมบูรณ์แบบมักจะดูเหมือนต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง อุปกรณ์ราคาแพง และกระบวนการที่ใช้เวลายาวนาน โทบี จึงได้นำเสนอโซลูชัน Auto Color Adjuster เพื่อเป็นทางออกที่ท้าทายข้อสันนิษฐานเหล่านี้ โดยทำให้การจัดการสีในระดับมืออาชีพเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ 

การสร้างโปรไฟล์ VS. การปรับเทียบ: ปิดช่องว่างเพื่อความสม่ำเสมอ

โทบี ได้เน้นย้ำถึงความแตกต่างที่สำคัญระหว่างการทำโปรไฟล์ (Profiling) และการปรับเทียบ (Calibration) ในการจัดการสี พร้อมกับแสดงให้เห็นว่า Auto Color Adjuster ช่วยทำให้กระบวนการทั้งหมดง่ายขึ้นได้อย่างไร

ในการจัดการสีแบบดั้งเดิม การทำโปรไฟล์เกี่ยวข้องกับการสร้างมาตรฐานเริ่มต้นสำหรับผลลัพธ์ของเครื่องพิมพ์ โดยการวัดว่าสีถูกแสดงผลออกมาอย่างไร กระบวนการนี้จำเป็นต้องพิมพ์ตารางที่มีแถบสีจำนวนมาก ซึ่งจะถูกวิเคราะห์เพื่อสร้างโปรไฟล์ผลลัพธ์ที่ใช้กำหนดการแสดงผลสีของเครื่องพิมพ์ ขั้นตอนนี้มักใช้เวลานาน ตั้งแต่ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงต่อโปรไฟล์ และจำเป็นต้องทำซ้ำในเครื่องพิมพ์และสื่อประเภทต่าง ๆเพื่อให้มั่นใจว่าจะได้สีที่มีความสม่ำเสมอ จำนวนโปรไฟล์ที่ต้องทำและเวลาที่ต้องใช้ ทำให้การทำโปรไฟล์แบบดั้งเดิมกลายเป็นงานที่ยุ่งยากและไม่เหมาะสำหรับผู้ให้บริการการพิมพ์

ในทางตรงกันข้าม การปรับเทียบเป็นวิธีแก้ปัญหาที่เร็วกว่า โดยการปรับค่าเครื่องพิมพ์กลับไปยังโปรไฟล์เดิมผ่านการวัดค่าความหนาแน่นของ CMYK ซึ่งจะทำให้เครื่องพิมพ์กลับคืนสู่สถานะเดิมได้ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ขาดความแม่นยำเมื่อเทียบกับการทำโปรไฟล์ และมักนำไปสู่ความเบี่ยงเบนของสีเมื่อเวลาผ่านไป วิธีแก้ไขปัญหาแบบเร่งด่วนอย่างการปรับเทียบ หรือ Calibration ทำให้การปรับเทียบไม่สามารถจัดการปัญหาความหลากหลายของสีได้อย่างครอบคลุมเท่ากับการสร้างโปรไฟล์

Auto Color Adjuster เชื่อมช่องว่างระหว่างการทำโปรไฟล์และการปรับเทียบ ด้วยการนำเสนอโซลูชันที่มีประสิทธิภาพ คุณสมบัติ “Quick Color Adjustment” ช่วยให้สามารถทำโปรไฟล์เครื่องพิมพ์ทั้งหมดได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที และสร้างผลลัพธ์สีที่แม่นยำและสม่ำเสมอ กระบวนการที่ช่วยประหยัดเวลานี้ ช่วยให้ผู้ให้บริการการพิมพ์สามารถปรับเทียบและทำโปรไฟล์เครื่องพิมพ์ของตนได้อย่างรวดเร็ว โดยมั่นใจได้ในความแม่นยำและความสม่ำเสมอในทุกอุปกรณ์และทุกประเภทสื่อ

Auto Color Adjuster ผสานการทำโปรไฟล์และการปรับเทียบอย่างไร้รอยต่อ ทำให้มอบโซลูชันที่ครบถ้วน ขจัดข้อจำกัดของการจัดการสีแบบดั้งเดิม และมอบผลลัพธ์ในระดับมืออาชีพได้อย่างง่ายดาย เครื่องมือนี้ช่วยให้ผู้ให้บริการการพิมพ์สามารถมุ่งเน้นไปที่การขยายธุรกิจและตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยยังคงไว้ซึ่งความแม่นยำหรือความสม่ำเสมอของสี

RICOH Auto Color Adjuster: โซลูชันเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า

โทบี ได้อธิบาย RICOH Auto Color Adjuster ว่าเป็น "ปุ่มทางลัด" สำหรับการจัดการสี โดยได้รับการออกแบบให้เรียบง่ายและไม่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเพื่อให้ได้สีที่แม่นยำและสม่ำเสมอ โซลูชันที่ล้ำสมัยนี้ช่วยให้ผู้ให้บริการการพิมพ์สามารถจัดการกับความต้องการด้านสีที่สุดท้าทายได้อย่างมั่นใจ สร้างความพึงพอใจพร้อมส่งเสริมความภักดีของลูกค้าในระยะยาว

คุณสมบัติเด่นอย่างหนึ่งของเครื่องนี้คือความสามารถในการจับคู่ตัวอย่างสี โทบีอธิบายว่า “Auto Color Adjuster ทำให้คุณสามารถสแกนภาพจริงในการใช้งานได้แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องใช้ตารางค่าสี” นั่นหมายความว่าการได้สีแดงของ Coca-Cola ที่สมบูรณ์แบบนั้น ไม่จำเป็นต้องอาศัยการปรับเทียบที่ซับซ้อนหรือความรู้เฉพาะทางอีกต่อไป เพียงสแกนตัวอย่างสีที่ต้องการ Auto Color Adjuster ก็สามารถสร้างโปรไฟล์ที่ช่วยให้เครื่องพิมพ์ของคุณแสดงผลสีได้อย่างถูกต้อง 

โทบียังได้เน้นย้ำถึงความง่ายในการใช้งาน Auto Color Adjuster ซึ่งช่วยปรับปรุงกระบวนการจัดการสีให้เป็นระบบ ประหยัดทั้งเวลาและทรัพยากร ในขณะเดียวกันก็ให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม ความสามารถรอบด้านของโซลูชันนี้ไม่ได้จำกัดอยู่ที่การจับคู่สีของแบรนด์ แต่ยังรองรับวัสดุที่หลากหลาย รวมถึงเทคโนโลยีการพิมพ์ และขอบเขตสีต่าง ๆ นับเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับผู้ให้บริการการพิมพ์ที่ต้องการยกระดับศักยภาพของตน

ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่การพิมพ์ซ้ำไปจนถึงการปรับแต่งตามความต้องการ

โทบี ได้พูดถึงประเด็นสำคัญอีกข้อหนึ่ง นั่นคือความจำเป็นที่ผู้ให้บริการการพิมพ์ต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะในเรื่องของการพิมพ์ซ้ำที่สามารถรักษาคุณภาพและสีให้เหมือนกับงานพิมพ์ครั้งแรกได้อย่างสม่ำเสมอและงานที่ต้องปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้า

ผู้ให้บริการการพิมพ์มักเผชิญกับความท้าทายเมื่อมีลูกค้ากลับมาสั่งพิมพ์ซ้ำหลังจากงานเดิมผ่านไปหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน โดยที่ลูกค้าคาดหวังให้ได้ผลลัพธ์เหมือนเดิมทุกประการ กระบวนการจัดการสีเป็นสิ่งที่ซับซ้อน และการขาดผู้เชี่ยวชาญในทีมอาจทำให้การรักษามาตรฐานเดิมเป็นงานที่ยากลำบาก 

Auto Color Adjuster ช่วยแก้ปัญหานี้ โดยช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถทำโปรไฟล์และปรับเทียบเครื่องพิมพ์ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้มั่นใจว่าสีที่พิมพ์ซ้ำจะมีความสม่ำเสมอด้วยการรักษาความแม่นยำตั้งแต่งานพิมพ์แรกจนถึงงานพิมพ์ซ้ำ Auto Color Adjuster ช่วยลดการลองผิดลองถูก ประหยัดเวลาและทรัพยากร พร้อมทั้งเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า

สำหรับงานที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น งานพิมพ์ที่ต้องปรับแต่งตามความต้องการหรืองานพิมพ์ที่มีแบรนด์ ลูกค้าจะมีความต้องการการจับคู่สีที่แม่นยำ คุณสมบัติการจับคู่ตัวอย่างสีของ Auto Color Adjuster ช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถสแกนตัวอย่างและสร้างโปรไฟล์ที่ทำให้เครื่องพิมพ์สามารถแสดงผลสีตามที่ต้องการได้อย่างถูกต้อง คุณสมบัตินี้ช่วยลดความยุ่งยากในการปรับเทียบที่ซับซ้อนและความจำเป็นของความรู้เฉพาะทาง ทำให้การรับมือกับดีไซน์ที่ซับซ้อนหรือการพิมพ์บนวัสดุที่มีลักษณะเฉพาะเป็นเรื่องง่าย

ตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการการพิมพ์สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างการ์ดเชิญงานแต่งงานหรือโบรชัวร์สำหรับองค์กร โดยมั่นใจได้ว่าการจับคู่สีจะตรงกับวิสัยทัศน์ของลูกค้าไม่ว่าจะซับซ้อนเพียงใด

การตอบสนองความต้องการทั้งในด้านการพิมพ์ซ้ำและงานปรับแต่ง Auto Color Adjuster ช่วยให้ผู้ให้บริการการพิมพ์มอบผลลัพธ์ได้เกินความคาดหวังของลูกค้า ปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ และลดการทำงานที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

เหนือกว่า CMYK: ขยายขีดความสามารถของคุณ

อุตสาหกรรมการพิมพ์กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่มอบศักยภาพที่เพิ่มขึ้นและโอกาสที่น่าตื่นเต้น โดยเฉพาะการพิมพ์แบบอิงค์เจ็ท ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นจากความเรียบง่าย ความสามารถในการทำซ้ำ และความเสถียร ดังที่โทบีได้กล่าวไว้ว่า “สิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับอิงค์เจ็ทคือกระบวนการซึ่งง่ายมาก ทำซ้ำได้ง่ายและมีความเสถียรสูง”

Auto Color Adjuster มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ธุรกิจปรับตัวเข้ากับความก้าวหน้าดังกล่าว ความสามารถของมันในการรองรับเทคโนโลยีการพิมพ์ต่างๆ รวมถึงอิงค์เจ็ท ทำให้มั่นใจได้ว่าสีจะมีความแม่นยำและสม่ำเสมอไม่ว่าจะใช้วิธีการพิมพ์แบบใด ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ขยายบริการและตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึง:

  • ขอบเขตสีที่กว้างขึ้น (Wider color gamuts): เทคโนโลยีอิงค์เจ็ทมักมีขอบเขตสีที่กว้างกว่าการพิมพ์ CMYK แบบดั้งเดิม ทำให้สามารถแสดงผลสีที่สดใสและอิ่มตัวมากขึ้น
  • วัสดุพิเศษ (Specialty substrates): เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทสามารถรองรับวัสดุที่หลากหลายได้ เช่น สิ่งทอ พลาสติก และแม้แต่วัตถุสามมิติ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆให้กับการสร้างสรรค์
  • การพิมพ์ข้อมูลแบบแปรผันได้ (Variable data printing): เทคโนโลยีอิงค์เจ็ทมีความโดดเด่นในด้านการพิมพ์ข้อมูลที่ปรับเปลี่ยนได้ ช่วยให้สามารถพิมพ์งานที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคลและงาน customize ได้

การปรับตัวเข้ากับความก้าวหน้าเหล่านี้และการใช้ Auto Color Adjuster ช่วยยกระดับผู้ให้บริการการพิมพ์ให้อยู่แถวหน้าของอุตสาหกรรม และเปิดประตูสู่โอกาสในการเติบโตและประสบความสำเร็จ

มอบพลังให้ธุรกิจการพิมพ์ของคุณด้วยความมั่นใจในสี

Auto Color Adjuster ช่วยให้ผู้ให้บริการการพิมพ์สามารถเอาชนะความท้าทายในการจัดการสี ตอบสนองความคาดหวังของลูกค้า และประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจการพิมพ์ที่มีการแข่งขันสูง ด้วยการทำให้กระบวนการง่ายขึ้นและลดความจำเป็นในการใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง Auto Color Adjuster ช่วยให้ธุรกิจในทุกๆขนาดสามารถบรรลุความแม่นยำและความสม่ำเสมอของสีในระดับมืออาชีพได้อย่างง่ายดาย 

A color management solution built for anyone

ที่มา:  RICOH USA  

 


News & Events

Keep up to date