ริโก้จับมือ Adobe ขับเคลื่อน Digital Transformation ด้วยโซลูชันที่ยืดหยุ่นและครอบคลุม

ริโก้เลือกอะโดบีซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านโซลูชัน Digital media และ Digital marketing ในการนำเสนอโซลูชันครีเอทีฟ การตลาด และการจัดการเอกสารของลูกค้าเพื่อช่วยเสริมศักยภาพให้แก่ลูกค้า SME ไปจนถึงลูกค้าคอปเปอร์เรท ในการนำเสนอผลงานดิจิทัลได้อย่างสมจริง และสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่กลุ่มเป้าหมายเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

 

โดยผ่านการถ่ายทอดวิสัยทัศน์จาก มร.ไซม่อน เดล กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของอะโดบี กล่าวว่า ทุกวันนี้โซลูชันของอะโดบีสามารถช่วยยกระดับประสบการณ์ลูกค้าและธุรกิจอย่างครอบคลุมไม่ว่าจะเป็น

  • Empowering Digital Business: องค์กรธุรกิจสามารถไว้วางใจใช้เทคโนโลยีของอะโดบีเพื่อแก้ไขปัญหาท้าทายในการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น (Digital Transformation) โดยแพลตฟอร์ม Adobe Experience Cloud ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถนำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต รวมทั้งมัดใจลูกค้าไว้กับแบรนด์ได้อยู่เสมอ
  • Accelerating Document Productivity: ซึ่งได้สร้างแพลตฟอร์ม Adobe Document Cloud เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสแกน แก้ไข แชร์ และเซ็นชื่อในเอกสารได้ทุกที่ทุกเวลา โดยอะโดบีเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีการแปลงเอกสารกระดาษให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลด้วยการคิดค้น PDF
  • Powering Incredible Experiences with Artificial Intelligence (AI): ผ่านมาการออกแบบและนำเสนอประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า อาจเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อน แต่ Adobe Sensei ใช้เทคโนโลยี AI และ Machine Learning มาเพิ่มความสะดวกให้กับขั้นตอนดังกล่าว โดยช่วยให้ลูกค้าสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างง่ายดาย

ทั้งนี้ อะโดบีมีลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่ครีเอเตอร์ ผู้ใช้มือสมัครเล่น ไปจนถึงธุรกิจขนาดเล็ก และองค์กรขนาดใหญ่ โดยสำหรับครีเอทีฟมืออาชีพ มือสมัครเล่น content creator นักศึกษาและอาจารย์สามารถใช้ Creative Cloud for Individuals เป็นชุดเดสก์ท็อปแอป โมบายล์แอป และบริการกว่า 20 รายการสำหรับการถ่ายภาพ การออกแบบ วิดีโอ เว็บ UX และอื่นๆ

สำหรับองค์กรธุรกิจจะมีโซลูชั่นอย่าง Creative Cloud for Teams และ Creative Cloud for Enterprise ประกอบด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับองค์กรธุรกิจและแผนกต่าง ๆ เช่น เครื่องมือจัดการระบบแบบรวมศูนย์, บริการสนับสนุนด้านเทคนิคระดับพรีเมียม, Creative Cloud Libraries ตัวช่วยสำหรับการแชร์ไฟล์และการประสานงานร่วมกันของทีมงาน, การบูรณาการเข้ากับแอพเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของธุรกิจที่ได้รับความนิยม

Document Cloud for Business เป็นโซลูชันเสริมประสิทธิภาพการทำงานเพียงหนึ่งเดียวที่ผนวกรวมเทคโนโลยี PDF ของอะโดบีเข้ากับแอพ Acrobat และ Adobe Sign ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างสรรค์และประสานงานร่วมกันโดยใช้เอกสารได้จากทุกที่ รวบรวมลายเซ็นสำคัญได้ง่ายด้วยคลิกเดียว

Experience Cloud โซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับการตลาด การวิเคราะห์ข้อมูล การโฆษณา และการค้า ด้วยชุดแอพพลิเคชั่นที่ครอบคลุม ซึ่งจะช่วยให้องค์กรธุรกิจและแบรนด์ต่างๆ สามารถผสานรวมคอนเทนต์ ข้อมูล และการปรับแต่งแบบเฉพาะบุคคลเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้กลายเป็นพลังที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าแบบเรียลไทม์

ทำไม ซอฟต์แวร์ที่มีไลเซนส์ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้

ในกรณีของ Creative Cloud สำหรับองค์กรธุรกิจ การมีไลเซนส์ที่ถูกลิขสิทธิ์จะช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ได้บนแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์ ผู้ใช้สามารถใช้งานแอพ Creative Cloud เวอร์ชั่นล่าสุดได้อยู่เสมอ ทุกที่ทุกเวลาตามที่ต้องการ และมีการบริหารจัดการไลเซส์ที่ง่ายดาย  โดยองค์กรธุรกิจและแผนกต่างๆ สามารถซื้อ มอบหมาย และจัดการไลเซนส์ผ่านทาง Admin Console โดยค่าใช้จ่ายของทุกคนจะรวมอยู่ในบิลเดียวกัน ทั้งนี้ยังสามารถซื้อและใช้งาน Adobe Stock ร่วมกันภายใต้แผน จึงเพิ่มความสะดวกในการจัดการไลเซนส์ตามข้อกำหนดในลักษณะรวมศูนย์

นอกจากนี้ ลูกค้าองค์กรสามารถขอความช่วยเหลือได้ทุกเมื่อที่ต้องการ โดยเปิดให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญแบบตัวต่อตัว (1:1 Expert Session) สองครั้งต่อผู้ใช้ต่อปี เพื่อให้ทีมงานของลูกค้ามีความชำนาญในการใช้เทคนิคต่างๆ ในแอพ Creative Cloud ได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้สมาชิก Creative Cloud สามารถเลือกจ่ายค่าบริการเป็นรายเดือนหรือรายปี และเลือกใช้แอพเดียวหรือแอพทั้งหมดก็ได้ ทั้งยังสามารถเลือกจำนวนไลเซนส์ตามความต้องการ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้บริการ

หากสมัครใช้บริการแบบองค์กรธุรกิจ รูปแบบนี้ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานและองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานระยะยาวหรือแบบเฉพาะกิจ หรือต้องการปรับขนาดตามโครงการ ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้ซอฟต์แวร์ของเราเข้าถึงผู้ใช้ทุกคนได้ง่ายขึ้น นับเป็นการกระจายอำนาจในการใช้ความคิดสร้างสรรค์สำหรับทุกคน

และระบบไลเซนส์ที่ยืดหยุ่นสำหรับ Acrobat DC ช่วยให้องค์กรธุรกิจและทีมงานสามารถปรับเปลี่ยนจำนวนผู้ใช้และกำหนดผู้ใช้งานตามความต้องการทางธุรกิจในแบบเรียลไทม์ จึงช่วยขจัดปัญหาการใช้งบประมาณอย่างสิ้นเปลือง เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการปรับตัวหรือต้องการความรวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจในช่วงวิกฤติตอนนี้